Highlight ของบทความนี้ (คลิกอ่านส่วนที่สนใจได้เลย)
- NVIDIA มันสมองที่แท้จริงแห่งยุค AI
- ความเป็นมาของ NVIDIA
- เจาะธุรกิจของ NVIDIA
- แนวโน้มในอนาคตของ NVIDIA
ถ้าใครได้ตามข่าวมาเรื่อย ๆ ก็น่าจะพอทราบถึงความร้อนแรงของ NVIDIA โดยล่าสุด
- NVIDIA ครองส่วนแบ่งชิป Data Center ถึง 72%
- กำไรเติบโตเกือบ 500%
- แถมหุ้นยังโตเกือบ 200% ใน 1 ปี
ทำให้ตอนนี้ NVIDIA มี Market Cap. ไล่ ๆ กับ Apple และ Microsoft ที่กำลังยื้อแย่งตำแหน่งบริษัทที่มูลค่าสูงที่สุดในโลก
Market Cap. ของ NVIDIA ขึ้น ๆ ลง ๆ ในอันดับ Top 3 โลก | Source: CompaniesMarketCap.com
ถ้าพูดถึง NVIDIA แล้ว หากเป็นเกมเมอร์อาจจะนึกถึงการ์ดจอ และถ้าเป็นนักลงทุนเราน่าจะรู้จักบริษัทนี้ในฐานะหุ้นชิป AI
แต่ที่จริงแล้ว NVIDIA ยังมีแง่มุมน่าสนใจอีกไม่น้อย และวันนี้เราจะไปทำความรู้จัก NVIDIA กันให้มากขึ้นทั้งความเป็นมา ธุรกิจ ไปจนถึงเรื่องราวที่น่าจับตาในอนาคต มองกันให้ขาดว่าทำไม NVIDIA ถึงกลายมาเป็น หนึ่งในบริษัทหัวขบวนแห่งยุคสมัยแห่ง AI
ความเป็นมาของ NVIDIA
NVIDIA มีจุดเริ่มต้นมาจากชายคนหนึ่ง นั่นคือ Jensen Huang
เขาเป็นคนไต้หวันโดยกำเนิด และเคยมาอยู่ไทยสั้น ๆ ตอนอายุ 5 ขวบ แต่เมื่อสงครามเวียดนามปะทุขึ้น เขาและครอบครัว ก็ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลไปยัง อเมริกา ดินแดนที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ
เขาได้ศึกษาต่อด้านวิศวกรรมที่ Oregon State University และ Stanford University ก่อนที่จะเริ่มต้นทำงาน ในสายเซมิคอนดักเตอร์เรื่อยมา
ในปี 1993 Huang และเพื่อนของเขาอีก 2 คน คือ Chris Malachowsky และ Curtis Priem ได้ร่วมกันก่อตั้ง NVIDIA ในซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย
ก่อนจะถึงปี 2000 พวกเขาผลิตชิปประมวลผลกราฟิก หรือ GPU ได้สำเร็จ ภายใต้ชื่อ GeForce ที่เราคุ้นกัน
โดยหลักการของ GPU คือ แทนที่จะประมวลผลด้านกราฟิกบนหน่วยประมวลผลกลาง (หรือ CPU) ร่วมกับการทำงานอื่น ๆ ของคอม เราก็ย้ายไปประมวลผลแยกบน GPU แทน
หนึ่งในจุดที่ทำให้ NVIDIA ก้าวกระโดดคือ คนเริ่มนำ GPU ไปใช้งานแบบอื่น ๆ นอกเหนือจากกราฟิก
แต่จุดที่ยังเป็นปัญหาสำหรับการใช้งานแบบนี้คือ ก่อนที่โปรแกรมเมอร์จะนำข้อมูลอื่นไปประมวลผลบน GPU โปรแกรมเมอร์จะต้องแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปที่ใช้งานบน GPU ได้ก่อน
ในปี 2006 NVIDIA เลยแก้เกมโดยการออกสถาปัตยกรรม GPU แบบใหม่ในชื่อ CUDA สามารถเข้าใจข้อมูลได้เลย ไม่ต้องแปลงข้อมูลอีกต่อไป โดยธุรกิจแรกที่นำ CUDA ไปใช้คือธุรกิจสำรวจแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยนำไปใช้ในการประมวลผลข้อมูลทางธรณีวิทยา นี่เป็นการเปิดประตูสู่ธุรกิจอื่น ๆ ของ NVIDIA
และจุดเปลี่ยนสำคัญคือ ในปี 2010 NVIDIA ก็เริ่มหันมาสนใจในการพัฒนา AI และการทำ Machine Learning ด้วยชิป GPU ของตน และพัฒนาชิปสำหรับการใช้งานด้านนี้เรื่อยมา
จนล่าสุด ศักราชของ AI ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง เริ่มจากการเปิดตัว ChatGPT ที่เป็น Generative AI ของ OpenAI ตามมาด้วย AI ของเจ้าอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้ชิปประมวลผลพลังสูงทวีความสำคัญขึ้นไปอีก เพราะช่วยให้การประมวลผลข้อมูลขนาดมหึมาใน Data Center ของผู้พัฒนา AI เกิดขึ้นได้
ส่งผลให้ในปี 2024 หุ้น NVIDIA ทะยานขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนล่าสุด มูลค่าบริษัทขึ้นไปแตะ 3 ล้านล้านเหรียญ พูดง่าย ๆ คืออยู่ในระดับเดียวกับ Microsoft และ Google เรียบร้อยแล้ว
NVIDIA ในปัจจุบัน
จริงอยู่ว่า ตอนนี้ NVIDIA เป็นผู้นำในการผลิตชิปประมวลผลสำหรับ AI อย่างแท้จริง แต่ถ้าจะมองให้ครบถ้วน NVIDIA มีธุรกิจอยู่ 4 อย่าง ดังนี้
1. ชิป Data Center – คิดเป็น 87% ของรายได้
- ตัวอย่างสินค้า เช่น GPU NVIDIA Hopper สำหรับ AI และการประมวลผลขั้นสูง
- โดยตอนนี้ NVIDIA ครองตลาดชิป Data Center มากกว่า 70% นี่คือธุรกิจที่ทำให้ NVIDIA เฉิดฉาย
ส่วนแบ่งรายได้ของ NVIDIA | Source: substackcdn.com
2. ชิป Gaming – คิดเป็น 10% ของรายได้
- ตัวอย่างสินค้า เช่น การ์ดจอ GeForce RTX สำหรับพีซีเกมและงานกราฟิกประสิทธิภาพสูง
3. ชิปงานภาพขั้นสูง – คิดเป็น 2% ของรายได้
- ตัวอย่างสินค้า เช่น การ์ดจอ Nvidia Quadro และระบบ Omniverse สำหรับการประมวลผลกราฟิก
4. ชิปยานยนต์ – คิดเป็น 1% ของรายได้
- ตัวอย่างสินค้า เช่น ระบบ NVIDIA DRIVE สำหรับรถไร้คนขับและ EV
- ถือเป็นธุรกิจน้องใหม่ ที่ NVIDIA หมายมั่นปั้นมือให้โตไปกับกระแสยานยนต์แห่งอนาคต
ผลประกอบการของ NVIDIA
ขยับมาดูผลประกอบการ ไตรมาสล่าสุด … NVIDIA มีรายได้ 26 พันล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 262% จากปีก่อน) มีกำไรสุทธิ 14.9 พันล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 462% จากปีก่อน) ที่ภาพรวมของ NVIDIA เติบโตได้ขนาดนี้ เป็นเพราะรายได้ด้าน Data Center ที่เติบโตมหาศาล
งบกำไรขาดทุน NVIDIA Q1/25 | Source: App Economy Insights
วิเคราะห์รายได้ของ Nvidia
ในไตรมาส 1 ปีนี้ ธุรกิจ Data Center สร้างรายได้ให้กับ NVIDIA ได้ถึง 22.6 พันล้านเหรียญ (เติบโต 427% จากปีก่อน)
รายได้จาก Data Center ของ NVIDIA (Quarterly) | Source: NVIDIA
และที่รายได้โดดขนาดนี้ ก็เป็นเพราะ ลูกค้าใหญ่ ๆ จากหลายธุรกิจทั้ง ผู้ให้บริการคลาวด์, บริษัท consumer internet, บริษัท Healthcare และผู้ผลิตยานยนต์ ต่างก็สั่งซื้อ GPU NVIDIA Hopper กันเข้ามามหาศาล
และนี่ไม่ใช่ไตรมาสแรกที่ รายได้ด้าน Data Center ของ NVIDIA โตโหดขนาดนี้
- ไตรมาส 4 ของปีก่อน รายได้จาก Data Center ก็โตถึง 409%
- ส่วนไตรมาสก่อนหน้านั้น ก็โตได้ถึง 279% และ 171% ตามลำดับ
ธุรกิจอื่นของ NVIDIA ก็เติบโตลดหลั่นกันไป
- Gaming เติบโต 18%
- Professional Visualization เติบโต 45%
- Automotive เติบโต 11%
พอเทียบกับธุรกิจร้อน ๆ อย่าง Data Center แล้วอาจจะดูน้อย แต่ถ้าเทียบกับบริษัทอื่น ๆ เลขประมาณนี้ก็ถือว่าไม่แย่
สรุป
NVIDIA คือธุรกิจที่มองข้ามไม่ได้ถ้าพูดถึงอุตสาหกรรม AI เพราะ ‘ชิป’ เป็นมันสมองในการประมวลผลเบื้องหลัง AI และยิ่งลูกค้าชั้นนำของ NVIDIA ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Google, Meta, Microsoft หรือ Tesla พัฒนาเรื่อง AI มากเท่าไหร่ นั่นก็ยิ่งทำให้ NVIDIA เติบโตมากขึ้นเท่านั้น
นี่คือเหตุผลว่าทำไม NVIDIA มีรายได้ทะยานขึ้นเกือบ 5 เท่า และสามารถไต่ขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าระดับ Top 3 ของโลกได้