นักลงทุนมือใหม่ในหุ้นอาจจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างว่า หุ้นบางตัวมีอักษย่อภาษาอังกฤษติดสอยห้อยตามมาด้วย อย่างเช่น XD, XR, XM หรือ NC ซึ่งตัวย่อหรือเครื่องหมายเหล่านี้นักลงทุนจำเป็นต้องจำให้ขึ้นใจ เพราะมันสามารถบอกถึงข่าวความเคลื่อนไหวของหุ้นนั้น ๆ ซึ่งบางครั้งอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของนักลงทุนด้วย ซึ่งจะมีเครื่องหมาย ดังนี้
- XD (Excluding Dividend) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล
- XR (Excluding Right) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิจองซื้อหุ้นออกใหม่
- XM (Excluding Meetings) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่มีสิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้น
- XW (Excluding Warrant) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหลักทรัพย์
- XS (Excluding Short-term Warrant) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์ระยะสั้น
- XT (Excluding Transferable Subscription Right) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้
- XI (Excluding Interest) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับดอกเบี้ย
- XP (Excluding Principal) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับเงินต้นที่บริษัทประกาศจ่ายคืน
- XA (Excluding All) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิทุกประเภทที่บริษัทประกาศ
- XE (Excluding Exercise) : แสดงการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นในการนำตราสารสิทธิไปแปลงสภาพเป็นหุ้นอ้างอิง
- XN (Excluding Capital Return) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่มีสิทธิในการรับเงินคืนจากการลดทุน
- XB (Excluding Other Benefit) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ ไม่ได้สิทธิจองซื้อหุ้นออกใหม่ ในกรณีต่อไปนี้
-
- สิทธิจองซื้อหุ้นบุริมสิทธิ ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญ
- สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ
- สิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์ที่เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering) โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท
- สิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทในเครือ
วิธีดูว่า หุ้นจะขึ้นเคื่องหมาย X อะไร และวันไหน
สามารถตรวจสอบได้จากปฏิทินหลักทรัพย์ ในเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือสังเกตจากเครื่องหมาย CA (Corporate Action) ท้ายชื่อหุ้น เป็นเครื่องหมายที่แสดงให้ทราบว่าหุ้นนั้น ๆ กำลังจะเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นภายในระยะเวลา 7 วัน หากอยากรู้ว่าเป็นเหตุการณ์ใด ให้นำเม้าส์ไปวางตรงเครื่องหมาย CA ก็จะมี Pop-up เครื่องหมายตระกูล X และวันที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น ๆ ปรากฎขึ้นมา
เครื่องหมายห้ามหรือเตือน เพื่อให้นักลงทุนระมัดระวัง
- H (Trading Halt) : ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว อาจเพราะมีข่าวที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น แต่บริษัทยังไม่ได้แจ้งข้อมูล หรืออยู่ระหว่างรอเปิดเผยข้อมูล หรือมีเหตุอื่นที่อาจกระทบต่อการซื้อขายอย่างร้ายแรง โดยแต่ละครั้ง มีระยะเวลาไม่เกินกว่าหนึ่งรอบการซื้อขาย
- SP (Trading Suspension) : ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับการขึ้นเครื่องหมาย H แต่บริษัทยังไม่ สามารถชี้แจงหรือเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ หรืออาจฝ่าฝืน ละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รวมทั้งไม่ส่งงบการเงินให้ภายในเวลากำหนด โดยแต่ละครั้ง มีระยะเวลาเกินกว่าหนึ่งรอบการซื้อขาย
- NP (Notice Pending) : บริษัทจดทะเบียนมีข้อมูลที่ต้องรายงานและตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างรอข้อมูลจากบริษัท
- NR (Notice Received) : ตลาดหลักทรัพย์ได้รับการชี้แจงข้อมูลจากบริษัทจดทะเบียนที่ได้มีการ Pending (NP) ไว้แล้ว
- NC (Non-Compliance) : หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน
- ST (Stabilization) : หุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีการซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน
เครื่องหมายแสดงหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย
- T1 (Trading Alert Level 1) : ระดับ 1 Cash Balance
- T2 (Trading Alert Level 2) : ระดับ 2 ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance
- T3 (Trading Alert Level 3) : ระดับ 3 ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance
Cash Balance หมายความว่า นักลงทุนต้องซื้อหลักทรัพย์ด้วยบัญชีแคชบาลานซ์เท่านั้น โดยวางเงินสดไว้กับโบรกเกอร์เต็มจำนวนก่อนซื้อหลักทรัพย์
ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย หมายความว่า ห้ามโบรกเกอร์ใช้หลักทรัพย์เป็นหลักประกันในการคำนวณวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ในทุกประเภทบัญชี
ห้าม Net Settlement หมายความว่า ห้ามโบรกเกอร์หักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (ซื้อและขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน ค่าขายคืนเป็นวงเงินในวันทำการถัดไป)
หากนักลงทุนสามารถจำเครื่องหมายต่าง ๆ ตามที่กล่าวมาได้ จะช่วยให้รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวในหุ้นนั้น ๆ ทำให้จับจังหวะการลงทุน และตัดสินใจลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
FinSpace