ถ้าหากเรามีเงินเดือนเท่านี้ ควรแบ่งใช้-เก็บยังไงดี ? วันนี้ FinSpace มีแนวทางการแบ่งบัญชีมาฝากทุกคนกัน โดยแบ่งบัญชีออกเป็น 4 บัญชี ดังนี้
1. บัญชีเงินเดือนและเงินใช้ประจำวัน
เป็นบัญชีไว้รับเงินเดือนและเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หลังจากหักเงินออมและค่าใช้จ่ายออกแล้ว เช่น ค่ากิน, ค่าเดินทาง
2. บัญชีเงินออม
แบ่งออมขั้นต่ำ 10% ของรายได้ เพื่อวางแผนการเงิน เช่น ไว้เป็นเงินสำรองฉุกเฉิน เผื่อกรณีที่เราอาจจะตกงาน ทำให้ไม่มีรายได้เข้ามา แต่รายจ่ายยังมีเหมือนเดิม จึงควรแบ่งมาออมในบัญชีที่มีสภาพคล่องอย่าง บัญชีออมทรัพย์
3. บัญชีลงทุน
แบ่งเงินจากบัญชีเงินออมมาลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ชีวิต ตามความเสี่ยงที่เรารับได้ เพื่อสร้าง passive income ให้เงินทำงานแทนเรา เพราะเราไม่สามารถทำงานไปได้ตลอด เช่น สลากออมทรัพย์, กองทุนรวม, หุ้น แต่ก่อนจะลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจในสินทรัพย์ที่เราจะลงทุนด้วย เพราะการลงทุนมาพร้อมกับความเสี่ยง
4. บัญชีค่าใช้จ่าย
เป็นค่าใช้จ่ายที่เรารู้อยู่แล้วว่าต้องจ่ายในทุก ๆ เดือน เช่น ค่าบ้าน, ค่ารถ
ตัวอย่างเช่น เงินเดือน 20,000 บาท แบ่งมาออม (20%) 4,000 บาท ให้ตั้งเป้าหมายการลงทุนเป็น 3 ระยะ ดังนี้
- ระยะสั้น 20% (800 บาท) ไว้เป็นเงินสำรองฉุกเฉิน แนะนำเก็บเงินส่วนนี้ไว้ในสินทรัพย์สภาพคล่อง หากจำเป็นต้องใช้เงินก็สามารถนำออกมาใช้ได้ทันที เช่น บัญชีออมทรัพย์ หรือกองทุนรวมตลาดเงิน หรือจะแบ่งมาออมเพื่อโอนย้ายความเสี่ยงอย่างการซื้อประกันสุขภาพ ก็ได้เช่นกัน
- ระยะกลาง 50% (2,000 บาท) ไว้ซื้อบ้าน แต่งงาน แนะนำเก็บเงินส่วนนี้ไว้ในพอร์ตลงทุนความเสี่ยงปานกลาง เช่น ฝากประจำ, กองทุนรวมหุ้น หรือกองทุนรวมผสม
- ระยะยาว 30% (1,200 บาท) ไว้ใช้ยามเกษียณอายุ แนะนำเก็บเงินส่วนนี้ไว้ใน RMF, ประกันบำนาญ หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จากที่กล่าวมา เราสามารถปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมของรายได้ และรายจ่ายของแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องทำตามนี้เป๊ะ เลยก็ได้ เพราะเป้าหมายชีวิตแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน
FinSpace