ด้วยยุคนี้เป็นยุคของเทคโนโลยีที่การชอปปิงอยู่แค่เพียงปลายนิ้ว แค่อยู่บ้านก็ทำให้เราเสียเงินกับการซื้อของออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ทำให้หลายคนแทบจะไม่มีเงินเก็บเลย งั้นวันนี้ Finspace มีสูตรแบ่ง 4 บัญชี เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น มีกิน มีเก็บ มาฝากกัน
1. บัญชีเงินเดือน
เป็นบัญชีเพื่อรับเงินเดือนหรือรายได้อื่น ๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นบัญชีค่าใช้จ่ายและบัญชีออมเงินร่วมด้วย เพราะจะทำให้เราจัดการเงินได้ยาก
2. บัญชีเงินออม
แบ่งเงินมาที่บัญชีเงินออมอย่างน้อย 10% ก่อนเป็นอันดับแรก ไว้เป็นเงินสำรองฉุกเฉินและลงทุนตามเป้าหมายต่าง ๆ โดยแบ่งเป้าหมายออกเป็น 3 ระยะ
ตัวอย่างเช่น แบ่งออม 4,000 บาท/เดือน ดังนี้
- ระยะสั้น 20% (800 บาท) ไว้เป็นเงินสำรองฉุกเฉิน เผื่อเจ็บป่วยหรือตกงาน แนะนำเก็บเงินส่วนนี้ไว้ในสินทรัพย์สภาพคล่อง หากจำเป็นต้องใช้เงินก็สามารถนำออกมาใช้ได้ทันที เช่น บัญชีออมทรัพย์ กองทุนรวมตลาดเงิน หรือซื้อประกันสุขภาพไว้ดูแลตอนเจ็บป่วย
- ระยะกลาง 50% (2,000 บาท) ไว้ซื้อบ้าน แต่งงาน แนะนำเก็บเงินส่วนนี้ไว้ในพอร์ตลงทุนความเสี่ยงปานกลาง เช่น กองทุนรวมผสม พันธบัตรรัฐบาล
- ระยะยาว 30% (1,200 บาท) ไว้ใช้ยามเกษียณอายุ แนะนำเก็บเงินส่วนนี้ไว้ใน RMF, ประกันบำนาญ หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
3. บัญชีค่าใช้จ่าย
เป็นบัญชีค่าใช้จ่ายคงที่ ที่รู้จำนวนเงินที่แน่นอนในแต่ละเดือน เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ แนะนำว่าควรโอนเงินจากบัญชีเงินเดือนเข้าบัญชีนี้ทุกต้นเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่ายจำเป็นเหล่านี้
4. บัญชีค่าใช้จ่ายรายสัปดาห์
เป็นบัญชีสุดท้ายที่เหลือหลังจากหักเงินออมและค่าใช้จ่ายจำเป็นออกแล้ว ไว้เป็นค่าใช้จ่ายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น ค่ากิน ค่าเดินทาง โดยโอนเงินเข้าทุกต้นสัปดาห์ เช่น เหลือ 10,000 บาทให้เฉลี่ยด้วย 5 สัปดาห์ ตกสัปดาห์ละ 2,000 บาท แต่หากเดือนไหนมีไม่ถึง 5 สัปดาห์ หรือสัปดาห์ไหนใช้จ่ายน้อยกว่าที่ตั้งไว้ ก็สามารถนำเงินที่เหลือไปเปย์ตัวเอง หรือโอนเข้าบัญชีเงินเก็บเพิ่มได้
FinSpace
ที่มาบทความ: https://www.facebook.com/finspace.co/posts/pfbid02QjTMPNsRGE4hKML2QxrdhApSSFPSXXMf5XmQhwGZivXDTQrW8uDHVrXrZD4SnbNwl