ใกล้สิ้นปีแล้ว… ใครที่กำลังมองหากองทุนลดหย่อนภาษี ไม่ว่าจะเป็น SSF หรือ RMF แต่ยังเลือกไม่ได้ ตัดสินใจไม่ถูก ไม่รู้จะซื้อกองทุนไหนดี?
บทความนี้จะมาแนะนำกองทุนลดหย่อนภาษี สำหรับนักลงทุนสาย The Contrarian Investor โดยเฉพาะ
ทั้งนี้ The Contrarian Investor คือ สไตล์การลงทุนแบบสวนตลาด โดยเน้นเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ราคาปรับตัวลดลงจากปัจจัยลบระยะสั้น แต่ปัจจัยพื้นฐานระยะยาวยังคงดีอยู่ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นสายที่ชอบแสวงหา “ของดีราคาถูก” นั่นเอง
ลองถามตัวเองดูก่อนว่าคุณเชื่อมั่นในสไตล์การลงทุนรูปแบบนี้ไหม หากคำตอบคือใช่ เราได้รวบรวมกองทุนแนะนำที่เหมาะสมมาให้แล้ว ดังนี้
Highlight กองทุนลดหย่อนภาษีรายกอง
แนะนำกองทุน SSF แบบ The Contrarian Investor
K-CHINA-SSF
นโยบายการลงทุน
กองทุนหุ้นจีน All China แบบ Active ลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Funds – China Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ซึ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่มีการตั้งถิ่นฐานหรือดำเนินธุรกิจในประเทศจีน และได้ประโยชน์จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวของรัฐบาลจีน
จุดเด่นและความน่าสนใจ
- ใช้กลยุทธ์คัดเลือกหุ้นแบบ bottom-up ที่มีศักยภาพการเติบโตเหนือกว่าคู่แข่งอย่างยั่งยืน
- เน้นการลงทุนบนเป้าหมายการเติบโตในระยะ 5 ปีขึ้นไป จากการวิเคราะห์อย่างเข้มข้น และส่วนใหญ่เป็นหุ้นกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เช่น Tencent, Alibaba, Meituan เพื่อรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
- อุตสาหกรรมที่กองทุนให้น้ำหนักมากที่สุด คือ Consumer Discretionary ซึ่งจะได้รับประโยชน์มหาศาล หากการบริโภคภายในประเทศจีนฟื้นกลับมา
ลงทุนขั้นต่ำและค่าธรรมเนียม
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 500 บาท และครั้งถัดไป 500 บาท
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): ยกเว้น
- ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back-end Fee): ยกเว้น
- ค่าใช้จ่ายกองทุน (Management Fee): 1.07% ต่อปี
- ค่าใช้จ่ายกองทุนรวม: 1.16% ต่อปี
สัดส่วนหุ้น 5 อันดับแรก
- Tencent 9.60%
- Meituan 6.30%
- Alibaba 4.80%
- NetEase 3.80%
- JD.com 3.60%
Source: K-CHINA-SSF Fund Fact Sheet as of 30/07/2023
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิก
B-ASIASSF
นโยบายการลงทุน
กองทุนหุ้นเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) แบบ Active ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Invesco Funds – Invesco Asian Equity Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ซึ่งเน้นลงทุนให้หุ้นเอเชียที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ สภาพคล่องสูง และกระจายพอร์ตลงทุนแบบมืออาชีพ
จุดเด่นและความน่าสนใจ
- เน้นลงทุนในหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และเป็นหุ้นที่ตลาดยังไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก โดยจะเลือกเข้าลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดมีความกังวล และหาโอกาสขายทำกำไรในช่วงที่ตลาดปรับตัวขึ้น
- สร้างผลตอบแทนระยะยาวสอดคล้องไปกับการเติบโตของภูมิภาคเอเชีย ด้วยการมองหาบริษัทที่มีรูปแบบธุรกิจยั่งยืน และมีงบดุลแข็งแกร่ง
- ให้น้ำหนักสัดส่วนพอร์ตไปที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ การเงิน และสินค้าฟุ่มเฟือย ส่วนประเทศที่ลงทุนเป็นหลัก ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอินเดีย
ลงทุนขั้นต่ำและค่าธรรมเนียม
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 500 บาท และครั้งถัดไป 500 บาท
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): ยกเว้น
- ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back-end Fee): ยกเว้น
- ค่าใช้จ่ายกองทุน (Management Fee): 0.09% ต่อปี
- ค่าใช้จ่ายกองทุนรวม: 1.16% ต่อปี
สัดส่วนหุ้น 5 อันดับแรก
- TSMC 8.20%
- Samsung Electronics 7.40 %
- Tencent 5.40%
- Housing Development Finance 4.10%
- Alibaba 3.80%
Source: B-ASIASSF Fund Fact Sheet as of 02/08/2023
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิก
PRINCIPAL IPROPEN-SSF
นโยบายการลงทุน
กองทุนที่ลงทุนใน REITs หน่วยลงทุนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
จุดเด่นและความน่าสนใจ
- มีการลงทุนใน REITs ในไทยและสิงคโปร์ ทำให้ช่วยกระจายการลงทุน ไม่กระจุกตัวในตลาดเดียว
- เน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีอยู่ในภาคส่วนที่มั่นคง มีการเติบโต ความผันผวนต่ำ
- เน้นคัดเลือกเป็นรายสินทรัพย์ โดยให้ความสำคัญกับ Valuation เป็นหลัก ไม่เร่งซื้อตามตลาด แต่หาโอกาสเข้าสะสมเมื่อราคาปรับตัวลง
ลงทุนขั้นต่ำและค่าธรรมเนียม
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): ยกเว้น
- ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back-end Fee): ยกเว้น
- ค่าใช้จ่ายกองทุน (Management Fee): 0.963% ต่อปี
- ค่าใช้จ่ายกองทุนรวม: 1.56% ต่อปี
สัดส่วนสินทรัพย์หลัก 5 อันดับแรก
- GOODMAN GROUP 9.50%
- STOCKLAND 4.14%
- Ascendas REIT 3.62%
- LINK REIT 3.55%
- Scentre Group 3.51%
Source: PRINCIPAL iPROPEN-SSF Fund Fact Sheet as of 31/07/2023
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิก
ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/
แนะนำกองทุน RMF แบบ The Contrarian Investor
KFCHINARMF
นโยบายการลงทุน
กองทุนหุ้นจีน All China แบบ Active ลงทุนในกองทุนหลัก FSSA Greater China Growth Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ซึ่งจะลงทุนในบริษัทที่มีแหล่งรายได้ในประเทศจีน ฮ่องกง หรือไต้หวัน
จุดเด่นและความน่าสนใจ
- เน้นลงทุนบนเป้าหมายการเติบโตในระยะ 5 ปีขึ้นไป จากการวิเคราะห์อย่างเข้มข้น เพื่อรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
- ใช้ชุดคำถาม Checklist กว่า 100 ข้อ สำหรับคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตการลงทุน เพื่อสร้างความมั่นใจ บนมุมมองที่แข็งแกร่ง
ลงทุนขั้นต่ำและค่าธรรมเนียม
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 500 บาท และครั้งถัดไป 500 บาท
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): ยกเว้น
- ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back-end Fee): ยกเว้น
- ค่าใช้จ่ายกองทุน (Management Fee): 0.8% ต่อปี
- ค่าใช้จ่ายกองทุนรวม: 1% ต่อปี
สัดส่วนหุ้น 5 อันดับแรก
- TSMC 8.60%
- Tencent 5.80%
- Midea Group 5.50%
- AIA Group 5.00%
- Ping An Insurance 4.20%
Source: KFCHINARMF iPROPEN-SSF Fund Fact Sheet as of 31/07/2023
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิก
B-ASIARMF
นโยบายการลงทุน
กองทุนหุ้นเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) แบบ Active ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Invesco Funds – Invesco Asian Equity Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ซึ่งเน้นลงทุนให้หุ้นเอเชียที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ สภาพคล่องสูง และกระจายพอร์ตลงทุนแบบมืออาชีพ
จุดเด่นและความน่าสนใจ
- เน้นลงทุนในหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และเป็นหุ้นที่ตลาดยังไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก โดยจะเลือกเข้าลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดมีความกังวล และหาโอกาสขายทำกำไรในช่วงที่ตลาดปรับตัวขึ้น
- สร้างผลตอบแทนระยะยาวสอดคล้องไปกับการเติบโตของภูมิภาคเอเชีย ด้วยการมองหาบริษัทที่มีรูปแบบธุรกิจยั่งยืน และมีงบดุลแข็งแกร่ง
- ให้น้ำหนักสัดส่วนพอร์ตไปที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ การเงิน และสินค้าฟุ่มเฟือย ส่วนประเทศที่ลงทุนเป็นหลัก ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอินเดีย
ลงทุนขั้นต่ำและค่าธรรมเนียม
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 500 บาท และครั้งถัดไป 500 บาท
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): ยกเว้น
- ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back-end Fee): ยกเว้น
- ค่าใช้จ่ายกองทุน (Management Fee): 1.43% ต่อปี
- ค่าใช้จ่ายกองทุนรวม: 1.73% ต่อปี
สัดส่วนหุ้น 5 อันดับแรก
- TSMC 7.90%
- Samsung Electronics 7.10 %
- Tencent 5.70%
- Housing Development Finance 4.20%
- Alibaba 3.80%
Source: B-ASIARMF Fund Fact Sheet as of 31/07/2023
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิก
B-IR-FOFRMF
นโยบายการลงทุน
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยและต่างประเทศ บริหารแบบ Active ที่เน้นลงทุนในหน่วย Property/ REITs/ หน่วย Infra โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV เพื่อเป้าหมายการสร้างผลตอบแทนทั้งปันผล และส่วนต่างราคา (Capital Gain) ที่ดีในระยะยาว
จุดเด่นและความน่าสนใจ
- มีความผันผวนต่ำกว่ากองทุนในประเภทเดียวกัน แต่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า (ระยะเวลาตั้งแต่ปี 2020) ซึ่งนับว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีของกองทุนสินทรัพย์ทางเลือก
- อสังหาฯ ไทยและสิงคโปร์ ยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง แต่การที่กลับมาเปิดเมืองอย่างเต็มที่แล้ว จึงมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อจากนี้
- ผู้จัดการกองทุนมีระบบและจุดชี้วัดที่ใช้ในการกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่ชัดเจน
ลงทุนขั้นต่ำและค่าธรรมเนียม
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 500 บาท และครั้งถัดไป 500 บาท
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): ยกเว้น
- ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back-end Fee): ยกเว้น
- ค่าใช้จ่ายกองทุน (Management Fee): 1% ต่อปี
- ค่าใช้จ่ายกองทุนรวม: 1.44% ต่อปี
สัดส่วนสินทรัพย์หลัก 5 อันดับแรก
- CapitaLand Ascendas REIT 8.55%
- FTREIT 7.49%
- WHART 7.45%
- CapitaLand Integrated Commercial Trust 6.40%
- Mapletree Pan Asia Commercial Trust 4.69%
Source: B-IR-FOFRMF Fund Fact Sheet as of 31/07/2023
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิก
ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม SSF และ RMF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษี จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกองทุน| การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | บางกองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299