Executive Summary
- ระดับ Valuation ของหุ้นในสหรัฐอเมริกาสูง เหมาะสมสำหรับการทยอยทำกำไร
- คาดการณ์ตลาดมีความผันผวนจากการเลือกตั้งและการประกาศงบการเงิน
- แนะนำลดสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงบางส่วนและเพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้โลกหรือเอเชีย
- สับเปลี่ยนออกจากกองทุนตลาดเงินเข้ากองทุนตราสารหนี้ในประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากทิศทางดอกเบี้ยและภาพรวมตลาดหุ้นกู้ที่กลับมาเป็นปกติ
ภาพรวมคำแนะนำ
พอร์ต GAR
- ลดสัดส่วน AFMOAT-HA 15% และ B-INNOTECH 5%
- เพิ่มสัดส่วน K-APB-A(A) 10% และ KKP PLUS 10%
พอร์ต GCP
- ลดสัดส่วน KKP MP 40% และ SCBWINA 10%
- เพิ่มสัดส่วน KKP ACT-FIXED 40% และ UGIS-N 10%
-
พอร์ต All Star
- ลดสัดส่วน AFMOAT-HA 5% และ B-INNOTECH 5%
- เพิ่มสัดส่วน KKP PLUS 10%
พอร์ต All Balance
- ลดสัดส่วน AFMOAT-HA 5% และ B-INNOTECH 5%
- เพิ่มสัดส่วน KKP PLUS 10%
พอร์ต All Defense
- ลดสัดส่วน KKP MP 50% และ AFMOAT-HA 5%
- เพิ่มสัดส่วน KKP ACT-FIXED 55%
พอร์ต GIF
พอร์ต RIS
- ลดสัดส่วน KKP MP 15%
- เพิ่มสัดส่วน KKP ACT-FIXED 15%
พอร์ต Money Plus
Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 24/10/2024
Finnomena Funds มองว่าระดับ Valuation ปัจจุบันของหุ้น โดยเฉพาะหุ้นในสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูงมาก ซึ่งเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการทยอยทำกำไร ทั้งนี้ ในอนาคตตลาดอาจมีความผันผวนมากขึ้นจากประเด็นการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และการประกาศงบการเงิน จึงแนะนำให้ปรับพอร์ตโดยลดสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงในภาพรวม และเพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้โลกหรือเอเชีย นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ย้ายกองทุนตราสารหนี้ในประเทศไทย เพื่อเพิ่ม Yield ในภาพรวมให้สอดคล้องกับบริบทอัตราดอกเบี้ยที่กำลังปรับตัวลง
มุมมองสำหรับพอร์ต GAR
แนะนำให้ทยอยทำกำไรในกองทุนหุ้น 2 กอง ได้แก่ AFMOAT-HA และ B-INNOTECH จากระดับ Valuation ที่สูง โดยการลดสัดส่วนดังกล่าวยังสามารถช่วยลดความผันผวนของพอร์ตในช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ และฤดูกาลประกาศงบที่กำลังเกิดขึ้น
แนะนำสะสมกองทุนตราสารหนี้ในประเทศเอเชีย K-APB-A(A) โดยมีปัจจัยสนับสนุนในระยะสั้น ได้แก่
- กระแส Flow ที่มองหาผลตอบแทน (Yield) จากกองทุนต่าง ๆ ที่ต้องการรักษาระดับผลตอบแทนให้สูง โดยปัจจุบัน Yield ของกองทุนอยู่ที่ 7.4%
- Duration เฉลี่ยอยู่ที่ 5.5 ปี ซึ่งถือเป็นระดับ Duration ที่สูง มีโอกาสสร้างผลตอบแทนมากขึ้นในช่วงที่ดอกเบี้ยอยู่ในขาลงอย่างต่อเนื่อง
- กลยุทธ์การลงทุนเน้นลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทที่มีคุณภาพดีในประเทศที่มีเครดิตเรตติ้งไม่สูง ช่วยให้กองทุนสร้างผลตอบแทนจากดอกเบี้ยได้สูงภายใต้ความเสี่ยงที่ต่ำ
- หากเศรษฐกิจโลกยังเติบโตต่อเนื่อง ตราสารหนี้ในประเทศเอเชียอาจสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้โลก
Source: am.lombardodier.com as of 24/10/2024
แนะนำให้พักเงินในกองทุน KKP PLUS เพื่อรอโอกาสในการจับจังหวะการลงทุนในอนาคต
มุมมองสำหรับพอร์ต All Series
สำหรับภาพรวมพอร์ตประเภท All Series ทั้ง 3 พอร์ต ได้แก่ All Star, All Balance และ All Defense ทาง Finnomena Funds แนะนำให้ลดสัดส่วนการลงทุนในกองทุน Satellite หรือกองทุนที่ทำหน้าที่สร้าง Alpha ระยะสั้น โดยหลังการปรับลดดังกล่าว พอร์ตทั้ง 3 จะยังคงรักษาสัดส่วนการลงทุนตามกรอบ SAA ระยะยาวที่ได้วางไว้
แนะนำให้ทำกำไรในกองทุนหุ้น 2 กอง ได้แก่ AFMOAT-HA และ B-INNOTECH สำหรับพอร์ต All Star และ All Balance จากระดับ Valuation ที่สูง โดยการลดสัดส่วนดังกล่าวจะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตในช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ และฤดูกาลประกาศงบที่กำลังเกิดขึ้น
สำหรับพอร์ต All Star และ All Balance แนะนำให้พักเงินในกองทุน KKP PLUS เพื่อรอโอกาสในการลงทุนในอนาคต
สำหรับพอร์ต All Defense แนะนำให้ลงทุนในกองทุน KKP ACT-FIXED แทนทั้งหมด เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวและใช้เป็น Core Asset ของพอร์ตต่อไป
มุมมองสำหรับพอร์ต GCP GIF RIS และ Money Plus
สำหรับภาพรวมพอร์ต GCP, GIF, RIS และ Money Plus ซึ่งเป็นพอร์ตที่มีความเสี่ยงต่ำ แนะนำให้ลดสัดส่วนในสินทรัพย์เสี่ยง และเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น เช่น ตราสารหนี้ไทย ตราสารหนี้โลก หรือกองทุนพักเงิน
สำหรับพอร์ต GIF และ GCP แนะนำให้ทำกำไรจากกองทุนหุ้นหรือกองทุนผสม ได้แก่ ABGDD-R และ SCBWINA บางส่วน เนื่องจากระดับ Valuation ที่สูง โดยการลดสัดส่วนดังกล่าวจะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตในช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ และฤดูกาลประกาศงบที่กำลังเกิดขึ้น นอกจากนี้ แนะนำให้เปลี่ยนหรือแบ่งสัดส่วนไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระดับโลกแทน ได้แก่ UGIS-A และ UGIS-N
สำหรับพอร์ต GCP และ RIS แนะนำให้ลงทุนใน KKP ACT-FIXED แทน KKP MP และสำหรับ Money Plus แนะนำให้ลงทุนใน KKP PLUS แทน KKP MP เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวและใช้เป็น Core Asset ต่อไป
รายละเอียดกองทุนที่แนะนำ
KKP PLUS
- กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและบริษัทเอกชนที่มีความมั่นคง พร้อมทั้งให้ผลตอบแทนที่ดี โดยกองทุนจะรักษาอายุถัวเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก (Portfolio Duration) ไม่เกิน 1.5 ปี โดยเฉลี่ยตลอดปีบัญชี นอกจากนี้ ตราสารหนี้ภาคเอกชน ณ วันที่ลงทุนจะต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป
- กลยุทธ์การลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
- ดัชนีชี้วัด ประกอบด้วย:
- 30% ผลตอบแทนรวมของดัชนีพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
- 35% ดัชนีผลตอบแทนรวมตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น (ThaiBMA Commercial Paper Index) ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในระดับ A- ขึ้นไป ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
- 5% ผลตอบแทนรวมสุทธิของดัชนีตราสารหนี้ภาคเอกชน Mark-to-Market ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในระดับ BBB+ ขึ้นไป อายุ 1 – 3 ปี ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
- 10% อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน สำหรับวงเงินน้อยกว่า 5 ล้านบาท เฉลี่ยของ 3 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ หลังหักภาษี
- 20% ของ Overnight Indexed Swap (OIS) 3 เดือน หลังหักภาษี ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทน
Source: am.kkpfg.com as of 24/10/2024
KKP ACT-FIXED
- กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยลงทุนในตราสารภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ตราสารรัฐวิสาหกิจ และ/หรือตราสารอื่นใดที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้าประกัน รวมทั้งลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเอกชน และ/หรือเงินฝาก และ/หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาผลตอบแทนโดยวิธีอื่นอย่างหนึ่ง อย่างใด หรือหลายอย่าง ตามที่กำหนดในหัวข้อประเภทของหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาผลตอบแทนโดยวิธีอื่นที่จะลงทุน หรือตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศกำหนด ทั้งนี้ กองทุนสามารถลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 79 ของ NAV ของกองทุน
- กลยุทธ์การลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
- ดัชนีชี้วัด ประกอบด้วย:
- 40% ผลตอบแทนรวมสุทธิของดัชนีพันธบัตรรัฐบาล Mark-to-Market อายุ 1 – 3 ปี ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
- 10% ดัชนีผลตอบแทนรวมตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น (ThaiBMA Commercial Paper Index) ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในระดับ A- ขึ้นไป ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
- 30% ผลตอบแทนรวมสุทธิของดัชนีตราสารหนี้ภาคเอกชน Mark-to-Market ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในระดับ BBB+ ขึ้นไป อายุ 1 – 3 ปี ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
- 20% Overnight Indexed Swap (OIS) 1 ปี หลังหักภาษี ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนเป็นสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน
Source: am.kkpfg.com as of 24/10/2024
K-APB-A(A)
- ลงทุนในกองทุน LO Funds – Asia Value Bond Fund (USD), NA (กองทุนหลัก) ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยและการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุน โดยจะลงทุนในตราสารหนี้ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (รวมถึงประเทศญี่ปุ่น) ที่อยู่ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) เป็นหลัก กองทุนหลักอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (Non-Investment Grade) และตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated) ได้
- ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ
- กองทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามกองทุนหลัก ซึ่งกองทุนหลักมีเป้าหมายให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
- ดัชนีชี้วัด:
- ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมหลัก (100.00%) ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อเทียบกับค่าสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน 90% และปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเทียบกับค่าสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน 10%
Source: kasikornasset.com as of 24/10/2024
UGIS-A และ UGIS-N
- ลงทุนในกองทุน PIMCO GIS Income Fund (Class I)
- กองทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามกองทุนหลัก ซึ่งกองทุนหลักมีเป้าหมายให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
- ดัชนีชี้วัด ประกอบด้วย:
- ผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเทียบค่าสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน (90%)
- ผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเทียบค่าสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน (10%)
Source:uobam.co.th as of 24/10/2024
จัดทำโดยบลป.เดฟินิท สำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
สามารถเข้าถึงรายละเอียดกองทุนต่าง ๆ และ Fund Fact Sheet ได้จาก Link บนชื่อกองทุน
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299