พอร์ต Next-Generation Global Growth (GGG) เป็นพอร์ตการลงทุนแบบ Fully Invested หรือลงทุนในหุ้น 100% ตลอดเวลา แต่ควบคุมความเสี่ยงด้วยการกระจายการลงทุนในหลากหลายธีม ซึ่งจะถูกจัดหมวดหมู่เป็น 4 มิติการเติบโต (The Four Dimensions of Growth)
The Four Dimensions of Growth
Source: Finnomena Funds as of 30/04/2024
1. Country Growth ประเทศหรือภูมิภาคที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต
2. Technology Growth ธีมการลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลักหรือย่อยที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต
3. Sustainability Growth ธีมการลงทุนแบบยั่งยืน สอดรับกับแนวคิดการลดภาวะโลกร้อน
4. Quality Growth ธีมการลงทุนที่เติบโตได้ในทุกสภาวะตลาด การเติบโตอาจไม่ได้เร็วแรงเท่ากับธีมอื่น แต่การมีธีมหุ้นสไตล์ Quality Growth อยู่ในพอร์ต ช่วยลดความผันผวนได้เป็นอย่างดี
และนำทุกธีมมาจัดสัดส่วนด้วย Minimum Volatility Optimization ทำให้การปรับสัดส่วนพอร์ต GGG จะมีขั้นตอนหลักสามขั้นตอนด้วยกัน
ขั้นตอนแรก คือการคัดเลือกธีมหุ้นที่เชื่อว่าจะมีโอกาสเติบโต โดยทบทวนสมมติฐานการเติบโตของธีมทั้งหมดในหน้าพอร์ตเก่า ว่าแต่ละธีมยังคงมีโอกาสในการเติบโตหรือไม่ ประกอบกับค้นหาธีมใหม่ที่เชื่อว่ามีโอกาสเติบโตได้ โดยแต่ละธีมจะมีการใช้ MEVT (Macro-Earnings-Valuation-Technical) Framework เข้ามาช่วยตัดสินใจ เพื่อให้สามารถประเมินโอกาสการเติบโตได้อย่างเป็นระบบ โดยในขั้นตอนนี้เราจะคัดเลือกธีมการลงทุนให้เหลือ 8-10 ธีม
ขั้นตอนถัดมา คือการคัดเลือกกองทุนที่เหมาะสมของแต่ละธีม โดยเราจะทำการสำรวจกองทุนหุ้นต่างประเทศในตลาดกองทุนไทย ที่มีนโยบายการลงทุนสอดคล้องกับธีมการลงทุนที่เราได้คัดเลือกไว้ และเลือกกองทุนที่มีผลตอบแทนโดดเด่นในระยะยาวเป็นกองทุนสำหรับพอร์ต GGG
ขั้นตอนสุดท้าย คือนำกองทุนทั้งหมดที่คัดเลือกแล้ว มาจัดเป็นพอร์ตด้วยการทำ Minimum Volatility Optimization ซึ่งเป็นกระบวนการจัดพอร์ต โดยใช้ข้อมูลการเคลื่อนไหวของมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุน นำมาคำนวณเป็นความผันผวนของกองทุน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (correlation coefficient) ระหว่าง 2 กองทุนคู่ใดคู่หนึ่ง และใช้หลักการจัดพอร์ตโดยให้น้ำหนักกับคู่กองทุนที่มีค่า correlation coefficient ต่ำ เพื่อให้ความผันผวนของ 2 กองทุนหักล้างซึ่งกันและกัน นำไปสู่ความผันผวนรวมของพอร์ตที่ลดลง ในขณะที่พอร์ตยังมีการเติบโตจากธีมการลงทุนที่คัดเลือกมาแล้ว
Growth Revision and Fund Selection
สำหรับพอร์ต GGG ในปี 2024 เราได้มีการทบทวนธีมการลงทุนของหน้าพอร์ตเก่าในปี 2023 และได้มีการปรับกลยุทธ์การลงทุนของหลายธีมด้วยกัน โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
Country Growth
Price, Earnings Growth, and Valuation of VNINDEX
Source: Finnomena Funds as of 8/5/2024
- เวียดนาม ที่เป็นธีมเก่ายังคงอยู่ในหน้าพอร์ตใหม่ของเรา เนื่องจากยังมีปัจจัยเชิงบวกจากการที่เวียดนามกำลังพัฒนาประเทศเพื่อเข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกของตลาด Emerging Markets (EM) ซึ่งถ้าหากเกิดขึ้นจริง เวียดนามจะสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้อีกมากมาย ในส่วนของการปรับประมาณการกำไรก็ยังมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณการเติบโตที่ดีของตลาดหุ้นเวียดนาม
India GDP and Projection
Source: Statista as of 4/10/2024
- นอกเหนือจากเวียดนาม เราได้มีการเพิ่มอีกหนึ่งธีม Country Growth นั่นคือ อินเดีย เนื่องจากอินเดียเป็นประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงการเติบโต จากทั้งจำนวนประชากรที่กำลังขยายตัว ซึ่งนำไปสู่กำลังการบริโภคภายในประเทศ และอินเดียในปัจจุบันกำลังพัฒนาเป็นฐานการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง จากปัจจัยด้านมหภาคเหล่านี้ ประกอบกับการปรับประมาณการกำไรของหุ้นในตลาดหุ้นอินเดียที่มีการปรับขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้อินเดียถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเราได้เลือกกองทุน B-BHARATA เป็นกองทุนสำหรับธีมนี้ จากผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน Master Fund (กอง RAMS Investment Unit Trust – India Equities Portfolio Fund II) ที่โดดเด่นเหนือกองทุนหุ้นอินเดียกองอื่น
Technology Growth
Price, Earnings Growth, and Valuation of SOX Index
Source: Finnomena Funds as of 8/5/2024
- ในส่วนของ Global Technology เราได้ตัดธีม Semiconductor ออกจากหน้าพอร์ตปี 2024 ด้วยเหตุผลด้าน Valuation ของหุ้นในกลุ่มนี้ที่อยู่ในระดับที่แพงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง นอกจากนี้ เราได้ตัดธีม E-sports ด้วยเหตุผลเรื่องหน้าหุ้นของธีมนี้จะมีหุ้นญี่ปุ่นอยู่ค่อนข้างเยอะ (ประมาณ 25-30%) ซึ่งตลาดหุ้นญี่ปุ่นในปัจจุบันอาจจะมี upside ที่ค่อนข้างจำกัด และมีความเสี่ยงในด้านการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ทำให้เราเชื่อว่าธีม E-sports จะมีการเติบโตที่จำกัด อย่างไรก็ดี เรายังเชื่อว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี จะยังมีการเติบโตที่ดีในอนาคต โดยจะได้อานิสงส์จากการขยายการใช้งานของปัญญาประดิษฐ์ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น cloud computing, cybersecurity และ AI developer แต่ด้วยมูลค่าที่ค่อนข้างแพงในปัจจุบัน จึงเลือกลงทุนในกองทุนหุ้นเทคโนโลยีที่ให้น้ำหนักกับการประเมินมูลค่าหุ้น เลือกหุ้นเติบโตที่มีมูลค่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม นั่นคือกอง B-INNOTECH ซึ่งลงทุนในกองทุน Fidelity Funds – Global Technology Fund
- ในส่วนของธีมการลงทุนบล็อกเชน เรายังคงมีมุมมองที่ดีต่อหุ้นในอุตสาหกรรมบล็อกเชน เราตัดสินใจสับเปลี่ยนกองทุน จากเดิมที่เป็น ASP-DIGIBLOC เป็นกองทุน KT-BLOCKCHAIN-A ด้วยเหตุผลด้าน correlation ระหว่างตัวกองกับราคา BTC ที่ในช่วงปีที่ผ่านมา กองทุน KT-BLOCKCHAIN-A มีผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของ BTC มากกว่ากอง ASP-DIGIBLOC และมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า
Price, Earnings Growth, and Valuation of FTSE China Technology Index
Source: Finnomena Funds as of 8/5/2024
- ในส่วนของ China Technology จากที่ภาพรวมหุ้นจีนได้มีการปรับตัวลงมาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ valuation ของหุ้นจีนอยู่ในระดับที่ถูก เราได้พิจารณาการเติบโตของหุ้นเทคโนโลยีจีน และได้ตัดสินใจตัดธีม STAR Technology (กองทุน TMB-ES-STARTECH) ซึ่งเป็นหุ้นเทคโนโลยีขนาดเล็กในจีนแผ่นดินใหญ่ที่เดิมเราเชื่อว่าจะได้ประโยชน์จากการที่ในช่วง 2 ปีก่อนที่จีนเน้นนโยบาย Common Prosperity และนโยบายควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในจีน แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเราจีนเริ่มกลับลำนโยบายต่าง ๆ มุ่งเป้าไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมและลดการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่หลังจากที่ตลาดหุ้นตกต่ำมานานและเศรษฐกิจอ่อนแอลงอย่างชัดเจน ทำให้การปรับประมาณการกำไรของหุ้นในกลุ่ม STAR อ่อนแอกว่าหุ้นเทคโนโลยีในตลาดหุ้นฮ่องกงที่ตัวเลขประมาณการกำไรในปี 2024 เริ่มดูดีขึ้น ทำให้เราตัดสินใจสับเปลี่ยนเงินลงทุนจากธีม STAR มาลงทุนในธีม China Technology ในภาพรวม โดยมีการลงทุนหลักอยู่ในหุ้นเทคโนโลยีที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง โดยลงทุนผ่านกองทุน BCAP-CTECH
Sustainability Growth
เปรียบเทียบผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี กองทุน B-SIP และ MRENEW-A
Source: Finnomena Funds as of 8/5/2024
- เราได้มีการสับเปลี่ยนกองทุนในกลุ่มหุ้นยั่งยืน จากเดิมที่เป็นกอง MRENEW-A ไปยังกองทุน B-SIP ซึ่งลงทุนในกองทุนสองกองด้วยกัน คือกองทุน Pictet – Global Environmental Opportunities ลงทุนในหุ้นที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้พลังงานทดแทน กำจัดหรือบำบัดของเสีย ลดการใช้วัสดุสิ้นเปลือง และกองทุน Pictet – Clean Energy Transition ลงทุนในหุ้นกลุ่มผู้ผลิตพลังงานทดแทนหรือผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบพลังงานทดแทน โดยการสับเปลี่ยนกองทุนในครั้งนี้จะทำให้นักลงทุนได้ลงทุนในหุ้นยั่งยืนที่มีความหลากหลายมากขึ้น และกองทุน B-SIP มีผลตอบแทนในอดีตที่เหนือกว่ากองทุน MRENEW-A
Price, Earnings Growth, and Valuation of MSCI China IMI Environment Index
Source: Finnomena Funds as of 8/5/2024
- เราได้ตัดธีม China Green ซึ่งเราลงทุนผ่านกองทุน P-CGREEN ออกจากธีมในปี 2024 เนื่องจากหุ้นส่วนใหญ่ในกองทุนนี้เป็นหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า สถานการณ์ในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงมาก ๆ ในบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยกัน ทำให้หลายบริษัทมีการทำสงครามราคาโดยการลดราคา ส่งผลให้กำไรของบริษัทเหล่านี้ลดลง และยังมีปัญหาเรื่อง oversupply หรือการผลิตสินค้าออกมามากเกินความต้องการของตลาด
Quality Growth
- ธีม Healthcare ซึ่งมีอยู่ในหน้าพอร์ตของปี 2023 ยังคงอยู่ในหน้าพอร์ตปีนี้ จากปัจจัยด้านสังคมผู้สูงอายุ และประมาณการกำไรของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพ ที่มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเราตัดสินใจสับเปลี่ยนกองทุนจากกองทุน KFHHCARE-A ซึ่งมีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ไปยังกองทุน KFHEALTH-A ซึ่งไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน เนื่องจากพอร์ตนี้เป็นพอร์ตลงทุนระยะยาว การยกเลิกการป้องกันความเสี่ยงในระยะสั้นอาจได้รับความผันผวนจากปัจจัยเรื่องค่าเงิน แต่ในระยะยาวสามารถคาดหวังผลตอบแทนที่ดีกว่าจากการไม่ต้องเสียต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (ซึ่งในปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูง) และนักลงทุนจะไม่เสียค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนจากการสับเปลี่ยนนี้
- นอกจากนี้ เรายังได้เพิ่มธีม Luxury Brands หรือธีมการลงทุนสินค้าในกลุ่ม high-end โดยบริษัทผู้ผลิตสินค้า/บริการในธีมนี้ มีการเติบโตของยอดขายและกำไร โดยมีความสัมพันธ์กับปัจจัยเศรษฐกิจในภาพรวมค่อนข้างน้อย และยังมีความผันผวนที่ต่ำ เหมาะสมกับการนำมาเป็นกองทุนในพอร์ต เพื่อช่วยลดความผันผวนรวมของพอร์ต โดยเราเลือกกองทุน B-PREMIUM ซึ่งลงทุนในกองทุน Pictet – Premium Brands Fund ลงทุนในหุ้นกลุ่มผู้ผลิตสินค้า/บริการ high-end ทั่วโลก เช่น L’Oreal, Ferrari, EssilorLuxotica, InterContinental Hotel Groups และ Hilton Worldwide Holdings
Portfolio Optimization
GGG Optimized Portfolio
Source: Finnomena Funds as of 30/4/2024
หลังจากคัดเลือกธีมการลงทุนและกองทุนสำหรับแต่ละธีม เราได้ทำการจัดพอร์ตด้วยแนวคิด Minimum Volatility Optimization และได้หน้าพอร์ตใหม่ดังนี้
GGG Portfolio Allocation
Source: Finnomena Funds as of 30/4/2024
สรุปการปรับพอร์ต GGG ประจำเดือนพฤษภาคม 2024
- สับเปลี่ยนกองทุน KFHHCARE-A ไปยัง KFHEALTH-A ทั้งหมด (20%) (ไม่เสียค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยน)
- ลดสัดส่วนกองทุน MRENEW-A ทั้งหมด (15%)
- ลดสัดส่วนกองทุน TMB-ES-STARTECH ทั้งหมด (7%)
- ลดสัดส่วนกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A 5%
- ลดสัดส่วนกองทุน UHERO ทั้งหมด (5%)
- ลดสัดส่วนกองทุน KKP SEMICON-H ทั้งหมด (5%)
- ลดสัดส่วนกองทุน ASP-DIGIBLOC ทั้งหมด (5%)
- ลดสัดส่วนกองทุน P-CGREEN ทั้งหมด (5%)
- เพิ่มสัดส่วนกองทุน B-SIP 15%
- เพิ่มสัดส่วนกองทุน B-BHARATA 10%
- เพิ่มสัดส่วนกองทุน B-INNOTECH 7%
- เพิ่มสัดส่วนกองทุน BCAP-CTECH 5%
- เพิ่มสัดส่วนกองทุน B-PREMIUM 5%
- เพิ่มสัดส่วนกองทุน KT-BLOCKCHAIN-A 5%
จัดทำโดยบลป.เดฟินิท สำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
สามารถเข้าถึงรายละเอียดกองทุนต่างๆ และ Fund Fact Sheet ได้จาก Link บนชื่อกองทุน
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299