Finnomena Monthly Investment Outlook กลยุทธ์การลงทุนประจำเดือนเมษายน 2025 : “โอกาสหรือวิกฤตในวันปลดแอก 2025 ของ Trump”

Executive Summary 

ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา

  • เราปรับมุมมองหุ้นสหรัฐฯ เป็น Slightly Positive จาก Neutral หลังตลาดตอบรับเชิงลบต่อนโยบาย Tariff ของ Trump มากเกินไป
  • โดยเรายังคงมองว่า Trump ใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อ “Make Deals” และเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่เข้าสู่ Recession แม้จะมีการชะลอตัวในบางส่วน
  • ด้านเงินเฟ้อสหรัฐฯ เรายังมองว่าไม่น่ากังวล เนื่องจากเงินเฟ้อค่าเช่ายังคงลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ประมาณการกำไรตลาดหุ้นเริ่มเห็นการปรับลดของหุ้นขนาดเล็กที่มากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ หลังเศรษฐกิจชะลอตัวกว่าที่คาด เราแนะนำลงทุนในหุ้นคุณภาพขนาดใหญ่

ตลาดหุ้นยุโรป

  • เราคงมุมมองต่อตลาดหุ้นยุโรปเป็น Slightly Positive แนะนำทยอยสะสม ผ่านกองทุน ONE-EUROEQ
  • โดยมองว่าเศรษฐกิจยุโรปได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ปัจจัยกดดันสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซีย-ยูเครน ภาวะเงินเฟ้อ และนโยบายภาษีของทรัมป์ ได้ถูกสะท้อนอยู่ในตัวเลขเศรษฐกิจและดัชนีตลาดแล้ว
  • ในระยะข้างหน้า ยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากการปฏิรูปกฎระเบียบด้านการกู้ยืม (debt break) ของเยอรมนี ประกอบกับการที่หลายประเทศกลับมามีงบดุลที่แข็งแกร่งมากขึ้น อีกทั้งยังได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของ ECB ซึ่งจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม
  • อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังคงทรงตัว ในขณะที่ดัชนีตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ Valuation ของตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้นมาอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยรอบ 10 ปี

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

  • เราปรับมุมมองหุ้นญี่ปุ่นเป็น Neutral จากเดิม Negative แม้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) มีโอกาสใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้นในอนาคต แต่ Tone ยังเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
  • ด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯและญี่ปุ่นมีโอกาสแคบลงและเงินเยนแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นญุี่ปุ่น อย่างไรก็ดี ประมาณการกำไรของตลาดหุ้นถูกปรับเพิ่มขึ้นและดีกว่าประเทศ DM อื่น ๆ
  • ขณะที่แนวโน้มกำไรของบริษัทยังแข็งแกร่งสวนทางเศรษฐกิจที่เปราะบาง

ตลาดหุ้นจีน

  • เราปรับมุมมองหุ้นจีน H-Shares เป็น Slightly Positive จาก Neutral และคงมุมมองหุ้นจีน A-shares เป็น Neutral โดยแนะนำทยอยสะสมกองทุน MEGA10CHINA-A
  • มาตรการกระตุ้นรอบนี้เน้นกระตุ้นการบริโภคในวงกว้างกว่าเดิม แต่ปัญหาด้านอสังหาฯไม่ยังฟื้นตัวและต้องใช้เวลา โดยรัฐบาลทำได้แค่รักษาสเถียรภาพราคาบ้าน ตัวเลขเศรษฐกิจในระยะสั้นเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะ Retail sales และ Fixed Asset
  • ประมาณการกำไรหุ้น H-shares ยังแข็งแกร่งกว่าหุ้น A-shares เนื่องจากมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวด้าน AI และได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นบริโภค ด้าน Valuation หุ้นจีน H-shares แพงกว่าอดีตเนื่องจากมีสัดส่วนหุ้นเทคฯ ที่มากขึ้น

ตลาดหุ้นอินเดีย

  • เราปรับมุมมองหุ้นอินเดียเป็นเป็น Positive จาก Neutral โดยแนะนำลงทุนกองทุน TISCOINA-Aและ B-BHARATA
  • เศรษฐกิจอินเดียผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วใน 3Q24 เริ่มฟื้นตัวชัดเจนใน 4Q24 และทิศทาง 1Q25 ทรงตัวต่อจาก 4Q24
  • ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวเติบโตสูง ปัญหาสภาพคล่องของระบบธนาคารในอินเดียมีแนวโน้มดีขึ้นหลังธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ลดดอกเบี้ยและกระตุ้นสภาพคล่อง ขณะที่ NIM ของธนาคารมีแนวโน้มลดลงแต่ผลประกอบการจะถูกชดเชยด้วย loan growth ที่ดีขึ้น
  • Valuation ตลาดหุ้นอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี

ตลาดหุ้นเกาหลีใต้

  • คงมุมมองเป็นกลาง Neutral ต่อหุ้นเกาหลีใต้ โดยแนะนำถือกองทุน SCBKEQTG และ DAOL-KOREAEQ
  • ภาคการส่งออกของเกาหลียังขยายตัว นอกจากนี้ มีรายงานระบุว่า Samsung ได้รับการอนุมัติจาก Nvidia ให้จัดหาชิป HBM3E แล้ว ในอนาคตผู้ผลิต memory chip จะได้อานิสงส์จากการประมวลผล Large Language Model (โมเดลภาษาขนาดใหญ่) ที่อาจมี memory requirement ที่เพิ่มสูงขึ้นไปอีก
  • รวมถึง Samsung ยังเดินหน้าแผนซื้อหุ้นคืนต่อ ซึ่งช่วยลด Downside ของราคาหุ้น
  • ขณะที่การยกเลิกระงับ Short-selling ไม่น่ากังวลเนื่องจากหน่วยงานกำกับได้พัฒนาระบบตรวจจับ Naked short-selling และเพิ่มบทลงโทษให้เข้มงวดขึ้น

ตลาดหุ้นไทย

  • ปรับมุมมองตลาดหุ้นไทยสู่ Slightly Positive จาก Neutral โดยทั้งภาครัฐบาลและหน่วยงานกำกับพยายามออกมาตรการพยุงตลาดหุ้น อาทิ การย้าย LTF ไป Thai ESG ด้านประมาณการกำไรตลาดหุ้น (SET) ถูกปรับลงต่อเนื่อง สวนทางกับประมาณการกำไรของหุ้นในดัชนี SETHD ที่ถูกปรับเพิ่มขึ้น
  • ในด้าน Valuation อยู่ในระดับถูกมาก ขณะที่ Dividend Yield (12-m forward) ของ SET และ SETHDอยู่ที่ 4.4% และ 5.9%
  • แนะนำกองทุน TISCOHD-A ซึ่งเน้นลงทุนหุ้นปันผลสูง และแนะนำกลยุทธ์แบบ Selective & Dynamic ในหุ้นที่มีการปรับประมาณการกำไรขึ้นไม่อิงหุ้นดัชนี

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • คงมุมมอง Slightly Positive ต่อหุ้นเวียดนาม โดยแนะนำทยอยสะสม ผ่านกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A และ KKP VGF-UI*
  • รัฐบาลมีเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวที่ชัดเจน รวมถึงมีแผนดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ รัฐบาลเวียดนามมีความพยายามในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ
  • รัฐบาลยังคงสนับสนุนและเน้นย้ำถึงการอัพเกรดเข้าสู่ Emerging Market ภายในปีนี้ ประมาณการกำไรของตลาดหุ้นถูกปรับขึ้น ขณะที่ Valuation ยังอยู่ในระดับถูก

 *ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย กองทุนรวมที่เสนอขายผู้ลงทุนสถานบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน

Thematic หุ้นกลุ่ม Healthcare

  • ปรับมุมมองหุ้นกลุ่ม Healthcare เป็น Slightly Positive จาก Neutral โดยแนะนำทยอยสะสมกองทุน ES-HEALTHCARE
  • มาตรการของทรัมป์จะส่งผลเสียทั้งหมดต่อหุ้นกลุ่ม Healthcare เนื่องจากบางมาตรการ (เช่น การส่งเสริม Medicare Advantage) จะช่วยเพิ่มการแข่งขันระหว่างบริษัทประกัน
  • ถึงแม้นโยบายด้านการตัดงบประมาณสาธารณสุขจะผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎร แต่เสียงโหวตระหว่างเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยถือว่าสูสีมาก แสดงให้เห็นว่านักการเมืองสหรัฐฯ ค่อนข้างเสียงแตกกับนโยบายดังกล่าว และมี ส.ส. รีพับลิกันส่วนหนึ่ง แสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้
  • หุ้นกลุ่ม Healthcare เป็นหุ้นกลุ่มที่ยังมีการเติบโตของกำไรที่ดี ในขณะที่ sector ใหญ่อื่น ๆ อย่างเช่น Technology เริ่มเห็นการปรับประมาณการกำไรลงในปี 2025 ในขณะที่ Valuation ไม่ได้แพงเกินไป

ดู Fund Fact Sheet กองทุนแนะนำ

 

จัดทำโดยบลป.เดฟินิท (Definit) สำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
สามารถเข้าถึงรายละเอียดกองทุนต่าง ๆ และ Fund Fact Sheet ได้จาก Link บนชื่อกองทุน


คำเตือนผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

Wealth Health Check