เศรษฐกิจจีนในภาพรวม
การเติบโตที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (real GDP growth) ของกลุ่มประเทศจีน (Greater China) ซึ่งประกอบด้วย จีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน และฮ่องกง ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยแม้ว่าการเติบโตของ GDP ของกลุ่ม Greater China จะต่ำกว่าอินเดีย ซึ่งเติบโตกว่า 9% แต่เมื่อหักลบกับอัตราเงินเฟ้อของอินเดีย ซึ่งสูงถึง 6.6% ทำให้อัตราการเติบโตที่แท้จริงของอินเดียยังคงต่ำกว่าบางประเทศในกลุ่ม Greater China ด้วยเหตุนี้ ทาง UOBAM จึงมองว่าเศรษฐกิจกลุ่ม Greater China ยังมีความน่าสนใจสูง เนื่องจากการเติบโตของ GDP อยู่ในระดับสูง และอัตราเงินเฟ้อต่ำ
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2023
เศรษฐกิจกลุ่ม Greater China ในระยะต่อไป ทาง UOBAM มองว่าภาคเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ดีจากการท่องเที่ยว และยอดค้าปลีก ที่ทยอยฟื้นตัว ควบคู่กับรายได้ของประชากรที่ค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ ทาง UOBAM สังเกตว่าเงินเก็บของประชากรจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินฝาก ทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อสูงขึ้น ซึ่งหากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของจีนเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ คาดว่าจะช่วยสนับสนุนต่อการบริโภคภายในประเทศ ให้สามารถขยายตัวได้ดีในอนาคต โดยการฟื้นตัวของจีนส่งผลต่อการฟื้นตัวของฮ่องกง และไต้หวัน เช่นเดียวกัน
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2023
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2023
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2023
การกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในระยะถัดไป และอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ
UOBAM เชื่อว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ที่ช้าลงกว่าเดิมในช่วงที่ผ่านมา มีโอกาสที่รัฐบาลจีนจะเพิ่มการอัดฉีดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 จนถึงต้นปี 2024 ซึ่งแม้ว่าตลาดหุ้นจีนจะปรับตัวลงมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา แต่ UOBAM เชื่อว่าจุดต่ำสุดได้ผ่านไปแล้ว และตลาดจีนกลุ่ม Greater China อยู่ในช่วงสร้างฐานเพื่อปรับขึ้น (consolidation stage)
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2023
อุตสาหกรรมที่ UOBAM มองว่าจะมีอนาคตสดใสในจีน ประกอบด้วย รถยนต์ไฟฟ้า การแพทย์ บริการออนไลน์ และธุรกิจการจัดส่งสินค้าและบริการถึงที่ (delivery) และประเทศในกลุ่ม Greater China ซึ่งนอกจากประเทศจีนแล้ว ตลาดหุ้นฮ่องกง เป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจ เนื่องจากมักจะเป็น “Gateway” หรือ ประตูที่เชื่อมระหว่างบริษัทจีนที่ต้องการจะระดมทุนจากทั่วโลก จึงทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงเป็นตลาดในการขยายฐานนักลงทุนไปนอกประเทศจีน นอกจากนั้น จากแนวโน้มการใช้ Data ที่เพิ่มมากขึ้น ณ ปัจจุบัน ทั้งการใช้โทรศัพท์มือถือ และ คอมพิวเตอร์ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเติบโตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ร่วมกับเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง (ML) และวิทยาการขั้นสูงทำให้อุปกรณ์เทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต (Internet of Things) มีความจำเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมหลายประเภท ทำให้เกิดความต้องการในการใช้ Computer ในการประมวลผล ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ในไต้หวัน น่าจะได้รับประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ทยอยผ่อนคลายเกณฑ์ในการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีของจีน ซึ่งเรามองว่าบริษัทในจีนเริ่มปรับตัว และปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐมากขึ้นแล้ว ทำให้เรามองว่าในระยะถัดไป ความเสี่ยงในเรื่องการถูกยกระดับการกำกับดูแลน่าจะลดน้อยลง
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ ปี 2022
ทำไมต้องเป็น Greater China
กลุ่ม Greater China มีศักยภาพในการเติบโตสูง และ UOBAM เชื่อว่าการลงทุนในกลุ่ม Greater China โดยไม่เจาะจงประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นประเทศเดียว จะช่วยลดความเสี่ยงเฉพาะตัวของแต่ละประเทศ และจะสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว จากการกระจายการลงทุน (diversify) นอกจากนั้น จากสถิติที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจีนจะมีความสัมพันธ์กับหุ้นโลกน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่ม Greater China สามารถใช้เป็นเครื่องมือลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้ด้วย นอกจากนั้น ปัจจุบันตลาดหุ้นกลุ่มนี้ถือว่ามีระดับราคา (Valuation) ที่น่าสนใจ P/E (จีน 9.4 เท่า , ฮ่องกง 12.6 เท่า, ไต้หวัน 15.3 เท่า) ซึ่งเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ มีระดับราคา (Valuation) ที่ค่อนข้างสูง P/E 18.9 เท่า จึงทำให้ Valuation กลุ่ม Greater China ดูน่าสนใจและน่าจะเป็นโอกาสในการทยอยลงทุนสะสมที่ดี
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2023
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ พฤษภาคม 2023
ทำไมต้องเป็นกองทุน UOB Smart Greater China Fund (UOBSGC)
กองทุน UOBSGC เข้าลงทุนในกองทุนหลัก United Greater China Fund ซึ่งได้รับการจัดอันดับใน Morningstar 5 ดาว และ UOBAM มองว่ากลุ่ม Greater China จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจของจีน ฮ่องกง และไต้หวัน และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งตลาดหุ้นของ Greater China มีจำนวนหุ้น (Universe) มากถึง 12,000 ตัวให้เลือก ซึ่งทำให้นักลงทุนมีโอกาสได้หุ้นที่มีความหลากหลาย มีการเติบโตที่โดดเด่น และอาจเป็นหุ้นที่อยู่นอกเหนือความสนใจของนักวิเคราะห์ทั่วไป โดยเศรษฐกิจจีนคิดเป็น 15% ของเศรษฐกิจโลก แต่มีน้ำหนักการลงทุนเพียง 3.5% ในดัชนี MSCI AC World Index ทำให้หุ้นจีนยังคงมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต ซึ่งถ้าเลือกลงทุนได้ถูกจังหวะ จะสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนได้ดี ในอดีตตั้งแต่ปี 2010 เราพบว่าการลงทุนในกลุ่ม Greater China ให้ผลตอบแทนโดยรวมมากกว่าหุ้นจีนในกลุ่มอื่น ๆ เช่น All China, China A-Shares และ H-Shares โดย Greater China ให้ผลตอบแทนรวมกว่า 94% โดยคิดเป็นผลตอบแทนต่อปีประมาณ 5% ทั้งนี้ นอกจาก Greater China จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นในตลาดจีนกลุ่มอื่น ๆ แล้ว ยังมีความผันผวนต่ำกว่าอีกด้วย
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2023
ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
การเลือกหุ้นในการลงทุนของกองทุนหลัก United Greater China Fund จะอาศัยความเชี่ยวชาญของผู้จัดการกองทุน ร่วมกับเทคโนโลยี Artificial intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) เพื่อเฟ้นหาหุ้นจาก 12,000 ตัวให้ได้หุ้นที่เหมาะสมที่สุด และคาดว่าจะมีโอกาสในการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้มากที่สุด (Upside potential return) โดยใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ จึงทำให้นักวิเคราะห์ทั่วไป ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากโดยปกตินักวิเคราะห์จะวิเคราะห์หุ้นได้เพียง 50 หุ้นต่อคนเท่านั้น การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI และ ML จึงช่วยให้กองทุนมีการการคัดเลือกหุ้นที่ดีและลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสในการเติบโต ทำให้กองทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น
และนอกจากผลการดำเนินงานที่ดีแล้ว สิ่งสำคัญคือการบริหารความเสี่ยง โดยในช่วงที่ตลาดหุ้นจีนมีความผันผวนสูง กองทุนหลัก United Greater China Fund ปรับตัวลงน้อยกว่าดัชนีอ้างอิง
เช่นในช่วงที่ประเทศจีนขยายการ Lockdown ( มี.ค. ปี 2021 – มี.ค.ปี 2022) ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลจีนเผชิญกับความท้าทายในการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 และได้ยกระดับความเข้มงวดในการกำกับดูแลบริษัทต่าง ๆ ในจีน ดัชนีตลาดหุ้นจีน MSCI Golden Dragon ปรับตัวลงประมาณ -23% และ ดัชนี MSCI China ปรับตัวลดลง -36% แต่ กองทุนหลัก United Greater China Fund ปรับตัวลงเพียง -12% ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ซึ่งสะท้อนถึงการปรับกลยุทธ์ที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยผู้จัดการกองทุน ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI และ ML ลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้มีความเสี่ยงลดลงได้อย่างทันท่วงที ทำให้กองทุนปรับตัวลงน้อยกว่าดัชนีอ้างอิงตลาดหุ้นจีน อย่างมีนัยสำคัญ
รวมถึงในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของ Covid ใน Wave2 ระหว่างเดือน (ก.ค. ปี 2022 – ต.ค. ปี 2022 ) กองทุนได้เน้นลงทุนในหุ้น กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ และปรับลดหุ้นกลุ่ม E-Commerce ทำให้กองทุน Outperformed ตลาดในช่วงที่ผ่านมา
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2023
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2023
ผลตอบแทนของกองทุนหลัก United Great China Fund
กองทุนหลัก United Great China Fund ปรับตัวขึ้นแล้วกว่า 306.1% ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน และมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าดัชนีอ้างอิง (benchmark) ที่ปรับตัวขึ้นได้เพียง 182%
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2023
ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
น้ำหนักของการลงทุนในหุ้นต่าง ๆ
กองทุนหลัก United Great China Fund ให้น้ำหนักการลงทุนไปยังกลุ่ม IT และกลุ่มการเงิน กลุ่มละประมาณ 25% ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างหุ้นเติบโต (growth) เช่น กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ และกลุ่ม IT และหุ้นเชิงรับ (defensive) เช่น หุ้นกลุ่มธนาคาร การเงิน และอาหาร โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในไต้หวัน ซึ่งสร้างผลตอบแทนได้ดีตามการเติบโตของกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัทที่น่าสนใจที่กองทุนเข้าไปลงทุน เช่น บริษัท Wistron (3231) ซึ่งทำธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ในไต้หวัน โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นประมาณ 5 เท่า จากราคาช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2023
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2023
คำแนะนำในการลงทุนกองทุน UOBSGC
สำหรับนักลงทุนที่มีกองทุนหุ้นจีนอยู่แล้ว ให้พิจารณาทยอยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกลุ่ม Greater China มากขึ้น เนื่องจากจะช่วยเพิ่มการกระจายตัวและลดความเสี่ยงจากการลงทุนประเทศจีน ไต้หวัน หรือฮ่องกงเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าเป็นนักลงทุนที่ยังไม่เคยมีกองทุนกลุ่ม Greater China เลย ทาง UOBAM มองว่าให้พิจารณาลงทุนไม่เกิน 15% ของพอร์ต เพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมจากโอกาสการเติบโตของกลุ่ม Greater China
ดูรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://finno.me/firemaker-uobsgc-ws
หรือ https://www.uobam.co.th/th/mutual-fund/00142/UOBSGC
ที่มา: Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC
ความเสี่ยงของกองทุน
สูง (ระดับความเสี่ยง 6)
คำเตือน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในประเทศจีนฯ ไต้หวัน ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2786-2222 และทาง LINE : @UOBAMTH