มุมมองภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566
BBLAM มองว่าเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาเริ่มแสดงความยืดหยุ่น และทนต่อการขึ้นดอกเบี้ยได้บ้างแล้ว แต่ว่าในช่วงที่เหลือของปี ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า อาจจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัว โดยมีปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เช่น อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ภาวะสงคราม และความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่ BBLAM เชื่อว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ BBLAM คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป (soft landing)
สถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส จะส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยผลกระทบจะขึ้นกับความรุนแรงของสถานการณ์ ซึ่ง BBLAM เห็นว่าผลกระทบจะอยู่ในวงจำกัดต่อสินทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งเร็วเกินไปที่จะประเมินสถานการณ์ว่าสงครามดังกล่าวจะทำให้ราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ ขึ้นหรือลง เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา แม้สถิติจะบ่งชี้ว่าหุ้นสหรัฐฯ ไม่ได้ตอบสนองต่อสงครามเท่าไรนัก โดยผลตอบแทน 12 เดือนให้หลังส่วนมากเป็นบวก แต่ก็มีบางครั้งที่ให้ผลตอบแทนเป็นลบ เช่นกัน อาทิ สงครามกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายในปี 2001 BBLAM จึงแนะนำให้นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์สงครามอย่างใกล้ชิด ซึ่ง BBLAM มองว่าปัจจุบัน ราคาหุ้นยังไม่ได้ตอบสนองต่อภาวะสงครามในอิสราเอลอย่างรุนแรง
ที่มา: Presentation กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH)
ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2566
ที่มา: Presentation กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH)
ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2566
ที่มา: Presentation กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH)
ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2566
อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed จะมีแนวโน้มอย่างไร
BBLAM เชื่อว่า Fed จะคงดอกเบี้ยในระดับสูงต่อเนื่อง แต่ตลาดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงของ Fed เข้าไปในราคาของหุ้นแล้ว (price-in) โดยในปี 2567 ตลาดคาดว่า Fed จะลดดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง ซึ่งถ้า Fed ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ อาจจะทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นได้ และในทางกลับกัน หากคงดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงนานกว่าที่ตลาดมอง จะทำให้หุ้นถูกกดดันได้
ที่มา: Presentation กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH)
ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2566
ทำไมช่วงตลาดหุ้นปรับฐานแต่หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (big tech) ไม่ค่อยปรับลง
หุ้น big tech มีผลประกอบการที่ค่อนข้างดี โดยเฉพาะกลุ่ม big 5 เช่น Apple, Microsoft และ Nvidia ซึ่งเป็นหุ้นที่ค้ำตลาดหุ้นไว้ แม้ว่าราคาหุ้นจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แต่ BBLAM มองว่าโอกาสในการเติบโตยังมีอยู่ สะท้อนจากอัตราการเติบโตที่ยังอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถ soft landing ได้ BBLAM เชื่อว่าหุ้นกลุ่มนี้จะฟื้นตัวได้เร็วเช่นกันในช่วงที่เศรษฐกิจกลับมาขยายตัว เนื่องจากระยะยาวน่าจะเติบโตได้ดี
ทำไมถึงเป็นกองทุน B-INNOTECH
กองทุน B-INNOTECH เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น application software, semiconductor, electronic components, internet services, และ transaction and payments โดยเน้นไปที่หุ้นที่เติบโตระยะยาว ซึ่งปัจจุบันกองทุน B-INNOTECH ถือหุ้น 97 ตัว ทำให้ไม่กระจุกตัว และลดความผันผวนได้ค่อนข้างมาก เช่น ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 กองทุน B-INNOTECH ก็ปรับตัวลงน้อยกว่ากองทุนอื่น ๆ
ที่มา: Presentation กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH)
ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566
ทำไมกองทุน B-INNOTECH ถึงสร้างผลตอบแทนได้ดี และผันผวนน้อย
กองทุน B-INNOTECH มีหุ้นที่มีคุณภาพ จัดสรรน้ำหนักการลงทุนได้ดี และมีการกระจายตัวอย่างสมดุล ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่เน้นไปที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เน้นไปที่หุ้นใหญ่ สร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว แต่จะไม่เติบโตแบบหวือหวา ซึ่งจะมีความเสี่ยงสูงกว่า
ที่มา: Presentation กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH)
ข้อมูล ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2566
กองทุน B-INNOTECH ถือหุ้นอะไรบ้าง
ที่มา: Presentation กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH)
ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566
ภาพด้านบนแสดงให้เห็นถึงน้ำหนักในการลงทุนในหุ้นที่กองทุน B-INNOTECH ถือสูงที่สุดเมื่อเทียบกับกอง benchmark 10 อันดับแรก โดยจะเห็นว่ามีการถือหุ้นต่าง ๆ กระจายตัว ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทำให้ลดความผันผวนได้ดี และสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ ซึ่ง BBLAM เชื่อว่าให้ความสบายใจกับนักลงทุนมากกว่าการถือหุ้นเพียงไม่กี่ตัว แต่มีน้ำหนักแต่ละตัวในระดับสูง ทั้งนี้ หากพิจารณาหุ้นที่กองทุน B-INNOTECH ถือ จะเห็นว่าครอบคลุมทั้งหุ้นต้นน้ำ และหุ้นปลายน้ำ โดยเฉพาะนักลงทุนที่ชื่นชอบการลงทุนในนวัตกรรม เช่น generative AI โดยกองทุน B-INNOTECH มีหุ้นตั้งแต่หุ้นที่ประดิษฐ์ generative AI และหุ้นที่ใช้ generative AI และมีการจัดสรรน้ำหนักอย่างเหมาะสม
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อาจอ่อนตัวในปี 2567 จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อกองทุน B-INNOTECH
BBLAM มองว่าค่าเงินดอลลาร์น่าจะอ่อนตัวลงในปี 2567 จากผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลง อย่างไรก็ดี การอ่อนตัวน่าจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับเงินบาทที่น่าจะแข็งขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งนี้ กองทุน B-INNOTECH ปัจจุบันมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 70% โดยประมาณ เนื่องจากปัจจุบันการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนมีต้นทุนราว ๆ 3% ทำให้จำเป็นจะต้องพิจารณาสัดส่วนที่เหมาะสมอย่างระมัดระวัง โดย BBLAM คาดว่าผลตอบแทนหลักจากกองทุน B-INNOTECH จะมาจากผลตอบแทนของหุ้นที่กองทุนถือ และความผันผวนของค่าเงินจะไม่ได้สร้าง หรือทำให้ผลตอบแทนเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ
ความเสี่ยงจากการลงทุน B-INNOTECH หลัก ๆ คือ แรงกดดันจากภาวะดอกเบี้ยสูงซึ่งทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวในภาพรวม และมักจะส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีมากกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ทั้งนี้ ผลตอบแทนในช่วงที่ผ่านมาของกองทุน B-INNOTECH อาจจะน้อยกว่าเป้าหมายทั่วไป (benchmark) อยู่บ้าง แต่ BBLAM มองว่ากองทุน B-INNOTECH มีการกระจายตัวที่ดีกว่า และช่วยลดความเสี่ยงของนักลงทุน โดยกองทุน MSCI World Information Technology ที่เป็น benchmark ให้น้ำหนักในหุ้น Apple, Microsoft และ Nvidia ถึงเกือบ 50% ของน้ำหนักการลงทุนทั้งหมด เมื่อเทียบกับกองทุน B-INNOTECH ซึ่งมีการกระจายตัวที่ดีกว่า และจะลดความผันผวนได้มากกว่า
ที่มา: Presentation กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH)
ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566
ที่มา: Presentation กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH)
ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2566
กองทุน B-INNOTECH ลงทุนในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันหุ้นเทคโนโลยี ก็ถือว่ามีการประเมินมูลค่า (valuation) สูงกว่าตลาดในอดีต ซึ่ง BBLAM เชื่อว่าการกระจายการลงทุนน่าจะช่วยลดความเสี่ยงในส่วนนี้ได้ นอกจากนั้น ในระยะสั้น นักลงทุนต้องจับตาพัฒนาการของสงคราม และผลประกอบการของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่จะเริ่มประกาศผลประกอบการในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน 2566 อย่างไรก็ดี BBLAM เชื่อว่าในระยะยาว หุ้นกลุ่มนี้น่าจะมีผลประกอบการที่ดีในระยะยาว ทั้งนี้ แม้ว่ากองทุน B-INNOTECH จะมีการลงทุนในหุ้นจีนที่ถูกกดดันบ้าง แต่ปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนในจีนมีน้อย และคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบต่อตัวกองทุน B-INNOTECH เท่าไรนัก
ที่มา: Presentation กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH)
ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2566
การลงทุนในกองทุน B-INNOTECH
กองทุน B-INNOTECH ถือเป็นกองทุนที่ลงทุนในธีมเฉพาะ (thematic fund) โดยBBLAM แนะนำน้ำหนักการลงทุนประมาณ 10-20% เพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว และทยอยสะสม ทั้งนี้ อาจมีความผันผวนระยะสั้นบ้าง แต่ BBLAM มองว่าการปรับตัวลงจะเป็นโอกาสในการซื้อ และลงทุนในระยะยาว
ผู้ที่สนใจเติบโตไปพร้อมกับ Innovation และ Technology ด้วย B-INNOTECH สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://finno.me/firemaker-binnotech-ws
คำเตือน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในประเทศจีนฯ ไต้หวัน ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT | หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง จำกัด ติดต่อบริการบัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือ 02 645 5555 E-mail: info@bangkokbank.com