
Highlight
- คว้าโอกาสลงทุนในหุ้นดีทั่วโลก ผ่าน K-GSELECT
- กระบวนการคัดเลือกหุ้น
- Top 10 Holdings
- ผลการดำเนินงานในอดีต
- จุดเด่นกองทุน K-GSELECT
ในโลกของการลงทุน การกระจายความเสี่ยงและเลือกหุ้นคุณภาพดี ถือเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ K-GSELECT มาพร้อมกับกลยุทธ์ Core Equity ที่เน้นคัดสรรหุ้นคุณภาพจากทั่วโลก เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว โดยมี J.P. Morgan Asset Management บริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลก เป็นพันธมิตรที่พร้อมส่งมอบความเชี่ยวชาญและการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ
สิ่งที่ทำให้ K-GSELECT โดดเด่นคือความสามารถในการลงทุนทั้งหุ้น Growth ที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต และ หุ้น Value ที่มีความมั่นคงและราคาที่น่าสนใจในช่วงเวลานั้น ด้วยกระบวนการคัดเลือกหุ้นที่อิงปัจจัยพื้นฐานในระดับลึก ทำให้พอร์ตการลงทุนสามารถปรับตัวได้ในทุกสภาวะตลาด
คว้าโอกาสลงทุนในหุ้นดีทั่วโลก ผ่าน K-GSELECT
K-GSELECT เป็นกองทุนหุ้นคุณภาพดีทั่วโลก มีนโยบายลงทุนใน JPMorgan Global Select Equity ETF ที่เน้นลงทุนในเน้นหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ทั้งในวัฏจักรที่เป็นหุ้น Growth หรือ Value โดยใช้กลยุทธ์ Bottom-up คัดเลือก 70-100 หลักทรัพย์
ทั้งนี้ กองทุนหลักจะใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการเชิงรุก (Active Management) เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าดัชนีอ้างอิง (MSCI World Net Return Index) และอาจมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุน
โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
1. K-GSELECT
สำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนนี้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
2. K-GSELECTU-A(A)
สำหรับผู้ยอมรับความผันผวนของค่าเงินบาทกับสกุลเงินต่างประเทศได้ กองทุนนี้ไม่มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ทำไมต้อง K-GSELECT
- ลงทุนในหุ้นทั่วโลก 70 – 100 ตัว ผ่านกองทุน JPMorgan Global Select Equity ETF (กองทุนหลัก) ที่ออกแบบการลงทุนมาเพื่อให้เป็นสัดส่วนหลักของพอร์ตหุ้นโลก (Core Equity)
- กองทุนหลักคัดเลือกหุ้นโลกแบบ Best Idea โดยทีม JPMAM Research ที่มีบทวิเคราะห์ครอบคลุมหุ้นทั่วโลกกว่า 2,500 ตัว
- สามารถลงทุนได้ทุกช่วงเวลา ไม่ว่าตลาดจะอยู่ในวัฏจักรที่หุ้น Growth หรือ หุ้น Value มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดี
- ด้วยกลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นที่เข้มข้น ทำให้มีโอกาสเอาชนะดัชนีชี้วัด MSCI World ได้อย่างต่อเนื่อง
กระบวนการคัดเลือกหุ้น
กระบวนการลงทุนของกองทุนหลัก | Source: K-GSELECT Presentation
ขั้นตอนที่ 1: วิเคราะห์
- นักวิเคราะห์จาก JPMAM ทำการวิเคราะห์หุ้นด้วยกรอบที่เข้มงวด และวัดความสม่ำเสมอ ผสมผสานกับกระบวนการประเมินด้าน ESG
- คาดการณ์ระยะยาวโดยรวบรวมปัจจัยต่าง ๆ ทั่วโลกเข้ามาตัดสินใจ
- ใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ทั่วโลก
ขั้นตอนที่ 2: คัดเลือก
- ผู้จัดการกองทุนใช้ข้อมูลวิจัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- คัดเลือกหุ้นที่มีความน่าสนใจสูงสุด
- มีกระบวนการลงทุนที่สม่ำเสมอ เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับแต่ละสภาวะตลาด
- มีวินัยด้านการซื้อขาย เพื่อหาจุดเข้าและออกที่เหมาะสม และการควบคุม Turnover
ผลลัพธ์ที่ได้ คือ Global Select Portfolio
- พอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย ประกอบด้วยหุ้นคุณภาพสูง 65 – 95 ตัว จากทั่วโลก
- พอร์ต Core Equity ที่ขับเคลื่อนด้วยการเลือกหุ้นรายตัวเป็นหลัก
- เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาว
- ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก
*หมายเหตุ: ข้อมูล ณ วันที่ 31/12/24 สัดส่วนอาจมีการเปลี่ยนแปลง
Top 10 Holdings ของ JPMorgan Global Select Equity ETF |
Source: JPMorgan Global Select Equity ETF Fund Fact Sheet, as of 31/12/24
1. Microsoft Corp (6.8%)
บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ผลิตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ (Windows), ชุดโปรแกรมสำนักงาน (Office), บริการคลาวด์ (Azure) และผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ เช่น Xbox
2. Amazon.com (5.8%)
บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ ดำเนินธุรกิจค้าปลีกออนไลน์, บริการคลาวด์ (AWS), ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์, และบริการสตรีมมิ่ง
3. NVIDIA Corp (5.4%)
ผู้นำด้านเทคโนโลยีชิปกราฟิก (GPU) ซึ่งใช้ในคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกม, การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
4. Meta Platforms (3.7%)
บริษัทเทคโนโลยีที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียขนาดใหญ่ เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp
5. LVMH Moet Hennessy Louis (3.2%)
บริษัทสินค้าหรูหราระดับโลก เจ้าของแบรนด์ดังมากมาย เช่น Louis Vuitton, Dior, Sephora, Moët & Chandon และ Hennessy
6. Apple (2.8%)
บริษัทเทคโนโลยีที่ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค เช่น สมาร์ทโฟน (iPhone), คอมพิวเตอร์ (Mac), แท็บเล็ต (iPad) และนาฬิกาอัจฉริยะ (Apple Watch)
7. Otis Worldwide Corp (2.3%)
บริษัทผู้ผลิตและบำรุงรักษาลิฟต์และบันไดเลื่อนรายใหญ่ที่สุดในโลก
8. Mastercard (2.3%)
บริษัทเครือข่ายการชำระเงินระดับโลก ให้บริการระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและเดบิต
9. UnitedHealth Group (2.2%)
บริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ให้บริการประกันสุขภาพ, บริการด้านการดูแลสุขภาพ และข้อมูลสุขภาพ
10. Exxon Mobil (2.2%)
บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ระดับโลก ดำเนินธุรกิจสำรวจ ผลิต ขนส่ง รวมถึงจำหน่ายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
ผลการดำเนินงานในอดีต
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง | Source: J.P. Morgan Asset Management,
as of Q1 2016 – Q4 2024
*ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะของสินทรัพย์ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
*Value Outperformed Growth
*Growth Outperformed Value
จากกราฟแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าหุ้นกลุ่ม Growth หรือกลุ่ม Value จะเป็นผู้นำตลาดในแต่ละช่วงเวลา กลยุทธ์ Global Select ยังคงสามารถเอาชนะตลาดหุ้นโลกได้ 22 ไตรมาสจากทั้งหมด 33 ไตรมาส หรือราว 67% ในช่วงระหว่าง Q1 2016 – Q4 2024
ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนหลัก JPMorgan Global Select Equity ETF เพิ่งจัดตั้งเมื่อกันยายน 2023 ทำให้มีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่สั้น จึงขออ้างถึงผลการดำเนินงานของกองทุน JPMorgan Investment Funds – Global Select Equity Fund (C Share Class) ซึ่งมีกลยุทธ์เหมือนกันทุกประการ
อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายอาจมีความแตกต่างกัน ข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น
จุดเด่นกองทุน K-GSELECT
- พอร์ตการลงทุนแบบ Core Equity เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนผ่านหุ้นทั่วโลก
- รองรับทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าจะเป็นในวัฏจักรที่หุ้น Growth หรือหุ้น Value มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดี
- กองทุนหลักคัดเลือกหุ้นโลกแบบ Best Idea จากทีม JPMAM Research ที่มีบทวิเคราะห์ครอบคลุมหุ้นทั่วโลกมากกว่า 2,500 ตัว
- นักลงทุนไม่จำเป็นต้องจับจังหวะการลงทุนตามสไตล์เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด
K-GSELECT เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลก โดยไม่ต้องคัดเลือกหุ้นรายประเทศหรือภูมิภาคเอง
- ผู้ที่ต้องการเข้าลงทุนโดยไม่ต้องจับจังหวะตลาด สามารถเข้าลงทุนได้ตลอด ไม่ต้องรอภาวะตลาดที่เอื้อต่อการลงทุน หรือรอจังหวะตลาดหุ้นย่อตัว
รายละเอียดอื่น ๆ ของ K-GSELECT
- ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมหุ้น ที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศ)
- นโยบายการจ่ายเงินปันผล: ไม่จ่ายปันผล
- K-GSELECT ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- K-GSELECTU-A(A) ไม่มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
- มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อครั้งแรก: 1 บาท*
- มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อครั้งถัดไป: 1 บาท*
*สำหรับบริการ K-Saving Plan และบริการสร้างแผนการลงทุน (ในแอปพลิเคชัน K-My Funds และระบบ K-Cyber Invest) ยังคงมูลค่าขั้นต่ำของการซื้อที่ 500 บาท
- ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee): 1.5%
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee): ยกเว้น
- ค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า (Switching-in) และออก (Switching-out): เท่ากับค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนต้นทาง หรือค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนของกองทุนปลายทาง แล้วแต่อัตราใดจะสูงกว่า
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee): 1.07% ต่อปี
สรุป
กองทุน K-GSELECT เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปทั่วโลกและเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว ด้วยกลยุทธ์ Core Equity ที่เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงและมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งกองทุนหลักบริหารจัดการโดย J.P. Morgan Asset Management หนึ่งในบริษัทจัดการสินทรัพย์ชั้นนำระดับโลก ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวมกว่า 100 ล้านล้านบาท พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนกว่า 1,300 คน และ 170 กองทุน ภายใต้การจัดการที่ได้รับการจัดอันดับ 4 – 5 ดาว จาก Morningstar (อ้างอิง: ลงทุนแมน)
นอกจากนี้ ยังมีการคัดเลือกหุ้นหลากหลาย โดยลงทุนทั้งในหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง และหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูง ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก และด้วยกลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นที่เข้มข้น ทำให้มีโอกาสเอาชนะดัชนีชี้วัด MSCI World ได้อย่างต่อเนื่อง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับกองทุน K-GSELECT ได้ที่: https://www.finnomena.com/fund/K-GSELECT
อ้างอิง: K-GSELECT Fund Fact Sheet, K-GSELECT Sale Document, JPMorgan Global Select Equity ETF Fund Fact Sheet, ลงทุนแมน
คำเตือน: ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนหลักเน้นลงทุนในประเทศสหรัฐฯ ทำให้ผู้ลงทุนมีความเสี่ยงจากมูลค่าหน่วยลงทุนที่อาจผันผวนมากกว่ากองทุนอื่นที่มีนโยบายกระจายการลงทุนในหลายประเทศหรือหลายภูมิภาค และผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | กองทุนหลักที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงที่ทางการของประเทศที่ลงทุนอาจออกมาตรการในภาวะวิกฤตการณ์ที่ไม่ปกติ ทำให้กองทุนไม่สามารถนำเงินกลับเข้ามาในประเทศได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนด | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299