วันนี้ (12 กรกฎาคม 2024) ดัชนีหุ้นฮ่องกง Hang Seng (HSI) และดัชนี HSCEI หรือหุ้นจีน H-Share ปรับตัวขึ้นกว่า 2.5% หลังตัวเลขการส่งออกเดือนมิ.ย.ขยายตัวเร่งขึ้นจาก 7.6% YoY ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 8.6% YoY ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ด้านตัวเลขการนำเข้าพลิกกลับมาหดตัวสู่ระดับ -2.3% YoY จากขยายตัว 1.8% YoY ในเดือนก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ไว้ที่ขยายตัว 2.8% YoY จากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นจาก 8.26 หมื่นล้านดอลลาร์ ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 9.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990  

นอกเหนือจากตัวเลขการส่งออกที่ประกาศออกมาวันนี้ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค. 2024) คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้ออกมาตรการเชิงรุก เพื่อควบคุม Short-Selling และกลยุทธ์การเทรดหุ้นโดยใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Trading Strategy) โดยได้อนุมัติการเพิ่มข้อกำหนดการวางเงินประกัน (Margin Requirements) สำหรับ Short-Selling และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2024 จากปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ Hedge Fund และนักลงทุนมีต้นทุนการ Short-Selling ที่แพงขึ้น 

Finnomena Funds มองว่าความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงจะเริ่มดีขึ้นจากข้อมูลเชิงบวกที่ประกาศออกมา และมาตรการกระตุ้นที่เริ่มมีผล นอกจากนี้รัฐบาลจีนมีความพยายามออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาคอสังหาฯ  ประกอบกับเมื่อพิจารณาถึงระดับ valuation ของดัชนี CSI 300 ที่มี 12-m forward PE ที่ 11.2  เท่า หรือ -1.2 S.D. ขณะที่ดัชนี Hang Seng มี 12-m forward  PE ที่ 8.3 เท่า หรือ -2 S.D. เมื่อเทียบค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี เรายังแนะนำทยอยสะสมในกองทุน MEGA10CHINA-A, UOBSGC และ SCBCHAA

จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)