Executive Summary
- All Star พัฒนาขึ้นจากความสำเร็จของ All Balance พอร์ตที่ได้รับความนิยมสูงและเป็น flagship ของ Finnomena
- All Star ใช้ Framework เดียวกับ All Balance แต่เพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงให้อยู่ที่ 80-100%
- ใช้โมเดล Black-Litterman เพื่อกำหนดสัดส่วนการลงทุนระยะยาวที่ดีที่สุด Strategic Asset Allocation (SAA)
- เพิ่มความยืดหยุ่นด้วย Tactical Asset Allocation (TAA) เพื่อให้ไม่พลาดโอกาสการลงทุนระยะสั้นที่สำคัญๆ
- เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความชื่นชอบความเสี่ยงสูง ยอดการลงทุนขั้นต่ำ 50,000 บาท
All Series Portfolio คืออะไร
All Series Portfolio เป็นกลุ่มพอร์ตการลงทุนที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองนักลงทุนที่มีความต้องการระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ด้วยยอดการลงทุนได้ด้วยขั้นต่ำเพียง 50,000 บาท (5,000 บาท สำหรับ All Defense) พอร์ตในซีรีส์นี้ประกอบด้วย All Balance, All Defense, และ All Star โดย Finnomena Funds ใช้ Framework การลงทุนของ All Balance ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นกว่าเฉลี่ย มาเป็นรากฐานที่สำคัญในการสร้างพอร์ต All Star
จุดเด่นของ All Balance และ Milestone ที่สำคัญ
All Balance Portfolio เป็นหนึ่งในพอร์ตการลงทุนที่เป็น flagship ของ Finnomena ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากลูกค้า โดย All Balance Portfolio ปัจจุบันมีความนิยมสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 3 มีอายุมากกว่า 3 ปี 9 เดือน มียอดเงินลงทุนทั้งหมดกว่า 1,433 ล้านบาท มีลูกค้าที่ลงทุนในแผนมากกว่า 3,171 ท่าน และมีผลตอยแทนเฉลี่ย 6% (มากกว่าค่าเฉลี่ยกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในลักษณะเดียวกันที่ทำได้ 0.5%)
พอร์ต All Balance จะมีการจัดสรรสินทรัพย์ระหว่างหุ้นและตราสารหนี้อย่างสมดุล โดยใช้โมเดล Black-Litterman เพื่อช่วยในการกำหนดสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม เรียกว่า SAA (Strategic Asset Allocation) และเพิ่มความยืดหยุ่นด้วย TAA (Tactical Asset Allocation) เพื่อปรับสัดส่วนตามบริบทการลงทุนในระยะสั้น
ข้อมูลผลตอบแทน ณ วันที่ 30 เมษายน 2024
ในการพัฒนาพอร์ต All Balance เรามี Milestone ที่สำคัญสองครั้ง:
- การนำระบบ CME Capital Market Expectations มาใช้: เรานำระบบ CME Capital Market Expectations เข้ามาใช้ในการคาดการณ์ผลตอบแทนของแต่ละสินทรัพย์ โดยคำนวณจากปัจจัยต่างๆ เช่น เงินเฟ้อ, PE, Earnings Growth และ Share Buyback จากนั้นนำผลลัพธ์มาปรับในโมเดล Black-Litterman เพื่อสร้าง SAA ที่เหมาะสมที่สุดในระยะยาว
- การนำระบบ Tactical Asset Allocation (TAA) เข้ามาใช้: การเพิ่มระบบ TAA เข้ามาในพอร์ตเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับสัดส่วนการลงทุน ทำให้นักลงทุนไม่เสียโอกาสหรือประโยชน์จากตลาดในระยะสั้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการจัด SAA เพียงอย่างเดียวแล้ว ระบบ TAA จึงมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าเพราะสามารถขาย/ซื้อสินทรัพย์ได้อย่างยืดหยุ่น และรวดเร็วกว่า
ที่มาของ All Star
จากความสำเร็จของ All Balance Portfolio และการเรียนรู้จาก Milestone ต่างๆ เราได้พัฒนาพอร์ตการลงทุนใหม่ที่ชื่อว่า All Star เพื่อรองรับนักลงทุนที่มีความชื่นชอบความเสี่ยงสูงขึ้น โดยใช้ Framework เดียวกันกับ All Balance แต่เพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงให้อยู่ที่ 80-100% และลดสัดส่วนตราสารหนี้ลง ทั้งนี้เรายังคงใช้โมเดล Black-Litterman ในการกำหนด SAA และนำระบบ TAA เข้ามาใช้เพื่อรับประโยชน์จากโอกาสการลงทุนในระยะสั้น
กลยุทธ์และสัดส่วนการลงทุน
กลยุทธ์ของ All Star Portfolio คือการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เช่น หุ้นและตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง สัดส่วนการลงทุนจะถูกกำหนดโดยโมเดล Black-Litterman เพื่อให้ได้ SAA ที่เหมาะสมในระยะยาว และจะมีการปรับ TAA เพื่อเพิ่มผลตอบแทนตามโอกาสในตลาด โดยมีการควบคุมสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงให้อยู่ที่ 80-100% เสมอ
ซึ่งในปัจจุบัน (มิถุนายน 2567) Finnomena funds แนะนำสัดส่วนการลงทุนในพอร์ต All Star ดังนี้:
- Global Equity 35% (Underweight 10%)
- Asia Equity 40% (Overweight 5%)
- Vietnam Equity 5%
- US Equity 5% (Overweight 5%)
- EU Equity 5% (Overweight 5%)
- TH&SG REIT 0% (Underweight 5%)
- Global Fixed Income 5% (Underweight 5%)
- Thai Fixed Income 5% (Overweight 5%)
สรุปความแตกต่างของ All Star ใน All Series และพอร์ตอื่นๆ
- All Defense: พักเงินระยะสั้น เพื่อหาจังหวะเข้าลงทุน ต้องการผลตอบแทนใกล้เคียงหรือสูงกว่าเงินฝากประจำ แต่ยืดหยุ่นในการฝากถอน
- All Balance: สะสมมูลค่าด้วยการวางพอร์ตกระจายความเสี่ยงอย่างสมดุล ต้องการวางแผนการลงทุนแบบระยะยาวแต่ไม่ละทิ้งโอกาสระยะสั้น
- All Star: สะสมมูลค่าแบบเน้นการลงทุนหุ้นและกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ต้องการวางแผนการลงทุนแบบระยะยาวแต่ไม่ละทิ้งโอกาสระยะสั้น
- All Weather Strategy: พอร์ตกองทุนพร้อมลุยทุกสภาวะตลาดจากทีมงานคุณ Andrew Stotz จัดพอร์ตโดยใช้ FVMR Framework (Fundamental, Valuation, Momentum และ Risk)
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงจะพบว่า All Star Portfolio มีความผันผวนที่สูงกว่า All Balance แต่มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาว การนำ Framework เดียวกันมาใช้ในการพัฒนาทั้งสองพอร์ตทำให้มั่นใจได้ว่าการลงทุนจะมีการจัดการที่มีประสิทธิภาพและสามารถปรับตัวตามสภาวะตลาดได้อย่างเหมาะสม
จัดทำโดยบลป.เดฟินิท สำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
สามารถเข้าถึงรายละเอียดกองทุนต่างๆ และ Fund Fact Sheet ได้จาก Link บนชื่อกองทุน
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299