วันนี้ (13 พฤศจิกายน 2024) ตลาดหุ้นเกาหลี (KOSPI) ร่วงลงกว่า 2.6% เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะนโยบายกีดกันทางการค้าและการเพิ่มภาษีนำเข้า ซึ่งเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาด จากความกังวลข้างต้นจึงส่งผลให้หุ้น Samsung ปรับตัวลงแรงกว่า 4.5% ซึ่งร่วงต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี ประกอบกับ Samsung ยังตามหลังคู่แข่งในเรื่องการผลิต ทั้งนี้ Samsung ได้ระบุว่ามีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการได้รับการอนุมัติจากลูกค้ารายใหญ่และคาดว่ายอดขายชิป HBM จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สี่
นอกจากนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีได้เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานชะลอตัวลงจาก 144,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน สู่ระดับ 83,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม
Finnomena Funds มองว่าความไม่แน่นอนของนโยบายทรัมป์จะเป็นปัจจัยกดดันเชิง Sentiment ต่อตลาดหุ้นเกาหลีในระยะสั้น อย่างไรก็ดี ตัวเลขการส่งออกชิปของเกาหลียังคงเติบโต นอกจากนี้ Samsung ยังอยู่ระหว่างพัฒนาชิป HBM3E เบื้องต้นมีแผนจะส่งมอบในไตรมาส 4 ของปี 2024 ขณะที่ Valuation ของตลาดหุ้นยังอยู่ในจุดที่ต่ำมากเมื่อเทียบในอดีต
จึงยังคงคำแนะนำทยอยสะสมหุ้นเกาหลีผ่านกองทุน SCBKEQTG และ DAOL-KOREAEQ
จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)