เช้าวันนี้ (1 สิงหาคม 2024) ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (TOPIX) ปรับตัวลงกว่า 3.4% และดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวลงราว 2.5% หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.25% จาก 0.0% – 0.1% และส่งสัญญาณระหว่างการแถลงข่าวว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต รวมทั้งยังประกาศแผนปรับลดปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลลงตามที่ประกาศไว้ในเดือนมิถุนายน
โดย BoJ จะลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลลง 4 แสนล้านเยน (ราว 2.86 พันล้านดอลลาร์) ต่อไตรมาส เพื่อให้การซื้อพันธบัตรรายเดือนลดลงสู่ระดับ 3 ล้านล้านเยน (1.96 หมื่นล้านดอลลาร์) ภายในเดือนมกราคม – มีนาคมปี 2026 ปัจจุบัน BoJ ซื้อพันธบัตรรัฐบาลอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านล้านเยน (3.81 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเดือน
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นยืนยันการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราในเดือนกรกฎาคม โดยใช้วงเงิน 5.53 ล้านล้านเยน (3.68 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อพยุงค่าเงินที่อ่อนค่าลงและแตะระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ประมาณ 148 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จึงกดดันตลาดหุ้นญี่ปุ่นในวันนี้
Finnomena Funds มองว่าการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้เป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญของ BoJ และความพยายามในการรักษาเสถียรภาพค่าเงิน รวมทั้งความกังวลต่อค่าเงินเยนที่อ่อนค่าอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมาจะกดดันให้ BoJ ต้องพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต ดังนั้น ยังคงแนะนำลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น
จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)