หุ้นจีนติดปีก Lead โดยกลุ่มเทคฯ

วันนี้ (18 มีนาคม 2025) ดัชนี HSCEI (หุ้นจีน H-Share) ปรับตัวขึ้นกว่า 2.3% และดัชนี Hangseng Tech ปรับตัวขึ้นราว 3.3% นำโดยหุ้น Baidu +11.90% Alibaba +5.39% Tencent 4.72 และ JD.com +4.50%

ขณะที่จีนเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด ทั้งยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นจาก 3.7% YoY  ในเดือนมกราคมสู่ระดับ 4.0% YoY ในเดือนก.พ ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ที่ 3.8%  และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้นจาก 3.2% YoY ในเดือนมกราคมสู่ระดับ 4.1% ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ที่ 3.2% ทั้งนี้ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอลงเล็กน้อยจาก 6.2% YoY  ในเดือนมกราคมสู่ระดับ 5.9% YoY ในเดือนก.พ. แต่สูงกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 5.3%

นอกจากนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2025 รัฐบาลจีนได้ประกาศแผนมาตรการกระตุ้น โดยจะดำเนินการเพื่อฟื้นฟูการบริโภค เพื่อเพิ่มรายได้ของประชาชน และจะมีการออกมาตรการกระตุ้นอย่างการรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งเสนอแรงจูงใจ เพื่อเพิ่มอัตราการเกิดของประเทศ นอกจากนี้ยังมีมาตรการกระตุ้นอื่น ๆ เช่น ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แก้ปัญหาหนี้ค้างชำระของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยี AI และ Trade-in Program โดยการประกาศมาตรการกระตุ้นในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนได้กำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 5% สำหรับปี 2025 ในที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC)

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2025 ทางการจีนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายด้านในการประชุม NPC  โดยขยายเพดานขาดดุลงบประมาณเป็น 4% ของ GDP หรือประมาณ 5.66 ล้านล้านหยวน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี พร้อมออกพันธบัตรระยะยาวพิเศษมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านหยวน โดยจัดสรร 300,000 ล้านหยวนเพื่อสนับสนุนโครงการกระตุ้นการบริโภคของประชาชน ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความจริงจังของรัฐบาลจีนในการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ ขณะที่เงินที่เหลือจากพันธบัตรดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ นอกจากนี้ รัฐบาลยังเตรียมออกพันธบัตรพิเศษเพิ่มเติมอีก 500,000 ล้านหยวน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเสริมเสถียรภาพของภาคการเงิน

Finnomena Funds มองว่า จากการประกาศมาตรการกระตุ้นสะท้อนว่ารัฐบาลจีนยังคงมุ่งมั่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูความเชื่อมั่น โดยเรามองว่าเป็นโอกาสลงทุนในระยะสั้น ตามคำแนะนำ FundTalk Contrarian ซึ่งแนะนำการลงทุนระยะสั้นในกองทุน MEGA10CHINA-A ที่เน้นลงทุนใน 10 หุ้นจีนขนาดใหญ่ H-Share อย่างไรก็ดี ในระยะยาวยังมีความไม่แน่นอน แม้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มเห็นปริมาณธุรกรรมที่ฟื้น

จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

Wealth Health Check