หุ้นเอเชียร่วงยกแผง กังวลเศรษฐกิจถดถอย

เมื่อคืนวันที่ 10 มีนาคม 2025 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P500) และ ดัชนี NASDAQ 100 ปรับตัวลงแรงกว่า -2.7% และ -3.81% ตามลำดับ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงยกแผง นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น (TOPIX) -1.6% ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) -1.17% ดัชนี HSCEI หรือ หุ้นจีน H-Shares -0.76% ตลาดหุ้นไทย (SET Index) -0.6% และตลาดหุ้นเวียดนาม (VN Index) -0.45%

การปรับตัวลงครั้งนี้ได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้น Tesla -15.43, Nvidia -5.07%, Apple -4.85%, Google -4.6%, Meta -4.42% และ Microsoft -3.34% โดยเกิดขึ้นเนื่องจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยได้ประกาศเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้า 25% สำหรับเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มีนาคม 2025 โดยทรัมป์ให้เหตุผลว่าทั้งสองประเทศยังไม่สามารถควบคุมการลักลอบขนยาเสพติดข้ามพรมแดนได้เพียงพอ นอกจากนี้ เขายังส่งสัญญาณว่าอาจเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนอีก 10% และขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าจากยุโรป 25% ซึ่งยังต้องติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว อย่างไรก็ตามทรัมป์ได้มีคำสั่งยกเว้นผู้ผลิตรถยนต์จากการขึ้นภาษี 25% ในแคนาดาและเม็กซิโกเป็นเวลา 1 เดือน

Finnomena Funds มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะยังคงเผชิญกับความผันผวน เนื่องจากสงครามการค้าและนโยบายที่ยังไม่แน่นอนของโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด ทั้งนี้เงินเฟ้อยังมีแนวโน้มปรับตัวลงในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า จึงทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2025 อีก 2 รอบ ในส่วนของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนแม้ประกาศออกมาดีกว่าคาด แต่นักวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการกำไรลดลงต่อเนื่อง ถึงแม้ราคาปรับตัวย่อลงมา แต่ Valuation ของตลาดหุ้นยังตึงตัว

เราแนะนำ Selective หุ้นเล็ก คุณภาพ และ Laggard ในกองทุน ASP-USSMALL-A และแนะนำ “ซื้อ” กองทุน MEGA10-A ตามมุมมองของ Fundtalk Call

ด้านตลาดหุ้นเอเชีย Finnomena Funds มองว่าตลาดมีโอกาสฟื้นตัว โดยการปรับตัวลงของตลาดจึงเป็นจังหวะในการเข้าทยอยสะสมการลงทุนในหุ้นเอเชียอย่าง UOBSA ที่ใช้ AI ร่วมกับผู้จัดการกองทุนในการคัดเลือกหุ้น สร้างผลตอบแทนระยะยาวโดดเด่นกว่ากองเอเชียอื่น ๆ

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการ hedge ความเสี่ยงพอร์ตจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายภาษีของสหรัฐฯ แนะนำลงทุนในกองทุนตราสารหนี้สกุลเงินดอลลาร์ตามคำแนะนำของ Mr.Messenger Call อย่างกองทุน AGBFIX-A และกองทุน SCBFST ซึ่งได้อานิสงส์จากค่าเงินดอลลาร์ที่มีโอกาสแข็งค่าในระยะสั้น รวมถึงยังรับโอกาสจาก Bond Yield สหรัฐฯ ตัวสั้นที่อยู่ในระดับสูง

จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

Wealth Health Check