The Key Factors : 2 ยักษ์เดินเกมส์

ภาวะตลาดการลงทุนในระยะนี้มีปัจจัยสำคัญมากมาย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับทั่วโลก สถานการณ์ล่าสุด สหรัฐเริ่มมีการจับคู่เจราจากับประเทศต่างๆ ขณะเดียวกัน จีนเองก็มีมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากถูกกดดันจากประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์จะออกมาเป็นเช่นไร สามารถติดตามได้ใน The Key Factors ได้เลยครับ

1. สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับเม็กซิโก

The Key Factors : 2 ยักษ์เดินเกมส์

Source : CNBC , LAFM.COM

หลังจากท่าทีไม่เป็นมิตรต่อ NAFTA มาอย่างต่อเนื่องของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศชัดเจนว่าต้องการจะออกจากกลุ่มความร่วมมือดังกล่าวจากความไม่เป็นธรรมของข้อคกลงระหว่าง 3 ประเทศ อันได้แก่ สหรัฐ เม็กซิโก และแคนาดา

ล่าสุดวันที่ 27 ที่ผ่านมา ได้มีการเจรจากันอีกครั้ง ระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน โดยได้ข้อตกลงในเชิงบวกมากขึ้น ด้วยการเพิ่มการใช้วัตถุดิบในภูมิภาคเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 75% จากเดิมที่ 62.5% เพิ่มกำลังการผลิตด้วยแรงงานที่ได้รับค่าจ้างอย่างน้อย 16 เหรียญต่อชั่วโมงจากเดิม 40% เป็น 45% ซึ่งจะส่งผลดีต่อเม็กซิโกมากขึ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังมีแนวโน้มที่จะจับมือเจรจากับ แคนาดา ซึ่งเป็นอีก 1 ประเทศสมาชิก NAFTA ที่เหลืออยู่ด้วย ถือว่าเป็นสัญญาณการผ่อนคลายความตึงเครียดในสงครามการค้าไปได้ 1 สมรภูมิ

2. รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐสูงที่สุดในรอบเกือบ 18 ปี

The Key Factors : 2 ยักษ์เดินเกมส์

Source : Investing

ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมามีแนวโน้มชะลอตัว ทั้งในส่วนของ PMI และ อัตราการจ้างงาน ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภค ออกมาที่ 133.4 จุด เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 126.7 จุด ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อตลาด และอาจมีแนวโน้มการบริโภคที่มากขึ้น

ซึ่งสหรัฐเป็นประเทศที่เศรษฐกิจพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศเป็นหลักประมาณ 89% ของ GDP ตัวเลขความเชื่อมั่นในการบริโภคดังกล่าวจะเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลต่ออัตราการฟื้นตัวของสหรัฐในอนาคต

3.Valuation จีนน่าสนใจ

The Key Factors : 2 ยักษ์เดินเกมส์

Source : Topdowncharts.com

อย่างที่นักลงทุนหลายๆ ท่านทราบกันดีว่า ตลาดหุ้นจีนนั้นมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา โดยมีการปรับตัวลงสูงสุดที่ประมาณ 26.58% และมีการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการปรับตัวลดลงนี้เอง ก็ทำให้มูลค่าตลาดหุ้นของจีนมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่ล่าสุดนั้น PE ของตลาดหุ้นจีน A-Share อยู่ที่ประมาณ 13 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต โดยในกราฟข้างต้นจะแบ่งข้อมูลออกเป็น 2 ชุดด้วยกัน คือ PE ของตลาด A-Shares ทั้งหมด และ PE ของตลาด A-Share โดยที่ไม่รวมกลุ่มการเงิน

ซึ่งจะเห็นได้ว่าในส่วนของ A-Shares ทั้งตลาดนั้นมีมูลค่าที่ถูกกว่า ส่วนที่ไม่นับรวมกลุ่มการเงิน ซึ่งหมายถึงกลุ่มการเงินนั้นเป็นกลุ่มที่มูลค่าปรับตัวลดลงมากกว่าตลาดโดยรวมมากนั่นเอง

4. มาตรการลดหนี้จีนได้ผล

The Key Factors : 2 ยักษ์เดินเกมส์

Source : Bloomberg

หลังจากหนี้ในระบบของประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอดีต ทั้งในส่วนของหนี้สาธารณะที่กระตุ้นไปยังรัฐบาลท้องถิ่นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน, Shadow Banking, และ Peer to Peer Lending ที่ปล่อยให้กู้อย่างอิสระระหว่างเอกชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อเกิดภาวะการใช้เงินกู้ดังกล่าวอย่างด้อยคุณภาพ เกิดความเสี่ยงทางการเงิน ส่งผลให้รัฐบาลจีนมีความพยายามในการลดภาระหนี้ดังกล่าวลง เพื่อลดความเสี่ยงเกิดฟองสบู่ในด้านสินเชื่อ

แต่แรงกดดันจากสงครามการค้าที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัว จีนจึงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอีกครั้ง และลดอัตราการกันสำรองของธนาคารลง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางธนาคารเพื่อสินเชื่อ SME แทน ซึ่งทำให้สภาพคล่องในระบบเพิ่มขึ้น โดยไม่เป็นการเพิ่มภาระหนี้ที่มากจนเกินไป เพราะ เน้นกระจายสินเชื่อ ไปยังจำนวนลูกหนี้ที่มากขึ้น เพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบได้อย่างทั่วถึง

ทั้งหมดนี้ก็เป็น The Key Factors ประจำสัปดาห์นี้ ที่ FINNOMENA Investment Team นำมาฝากทุกท่าน ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีโอกาสอยู่ในทั้ง 2 ตลาด จากการเดินเกมส์ทางเศรษฐกิจและการเมืองเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินประเทศของตน สุดท้ายนี้ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ

FINNOMENA Investment Team รายงาน

TSF2024