tactical call vn30

ความกังวลในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ผิดนัดชำระหนี้ การใช้เงินทุนผิดวัตถุประสงค์ การกำจัดการคอรัปชั่นในเวียดนาม เมื่อประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากภายในประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูง สร้างแรงกดดันให้ดัชนี VN30 ซึ่งเป็นตัวแทนของตลาดหุ้นเวียดนาม และเป็นดัชนีอ้างอิงสำหรับคำแนะนำ Tactical Call ของ FINNOMENA Investment Team เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2022 ที่ผ่านมา เคลื่อนไหวในกรอบแคบนานกว่า 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในเชิง Technical พบว่าการเคลื่อนไหวของราคายังคงอยู่ในกรอบแคบ Sideway ยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (MA20) ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยที่ยืนยันถึงแนวโน้มระยะสั้น พร้อมด้วยการทำ Pattern Higher Low ท่ามกลางปัจจัยเชิงลบจำนวนมากได้อย่างต่อเนื่องสะท้อนความแข็งแกร่งของตลาด

FINNOMENA Tactical Call VN30รูปที่ 1 กราฟดัชนี VN30 TF Day Source: Tradingview as of 02/06/23

จนกระทั่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี VN30 สามารถปรับตัวขึ้นเหนือ MA 200 วัน ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยที่ยืนยันถึงแนวโน้มระยะยาว สะท้อนการฟื้นตัวของ Momentum หรือมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนต่อตลาดหุ้นเวียดนามที่มากขึ้น

FINNOMENA Investment Team จึงเปลี่ยนแปลงคำแนะนำของการเก็งกำไร Tactical Call ดังนี้

1. เปลี่ยนคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”

2. พร้อมทั้งเปลี่ยนจุดแนะนำชะลอเข้าลงทุนเป็น ที่ระดับราคาไม่เกิน 1,120 จุด (+3.0% จากระดับราคาปิดตลาดวันที่ 02/06/2023) ซึ่งเป็นระดับราคาที่เราแนะนำให้พิจารณาชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากทำให้ Risk/Reward ratio เข้าใกล้ระดับ 1:1 

และหากหลังจาก FINNOMENA Investment Team แนะนำ Tactical Call แล้ว ดัชนี VN30 ปรับตัวลงต่ำกว่า 1,120 จุด และปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,120 จุดอีกครั้ง FINNOMENA Investment Team ยังคงแนะนำให้ ชะลอการเข้าซื้อ (หยุดซื้อ) ภายใต้คำแนะนำ Tactical Call เนื่องจากปัจจัยทางเทคนิคอาจเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงที่ให้คำแนะนำครั้งแรก

3. แนะนำ Take Profit 2 ระดับ

– โดยมีเป้าหมายแรกที่แนะนำขายทำกำไรบางส่วน เมื่อดัชนี VN30 ปรับตัวขึ้นถึง 1,230 จุด (Upside 13.62% จากระดับราคาปิดตลาดวันที่ 02/06/2023)  ซึ่งตรงกับแนวต้าน Fibonacci Retracement 50.0% ของรอบขาลงและใกล้เคียงกับแนวรับสำคัญในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2022

– และขายทำกำไรทั้งหมด เมื่อดัชนี VN30 ปรับตัวขึ้นถึง 1,310 จุด  (Upside 20.52% จากระดับราคาปิดตลาดวันที่ 02/06/2023)  ซึ่งตรงกับแนวต้าน Fibonacci Retracement 61.8% ของรอบขาลงและใกล้เคียงกับแนวสะสมกำลังในช่วงพฤษภาคม – สิงหาคม ปี 2022

4. และแนะนำ Limit Loss หรือตัดขาดทุนทันที เมื่อดัชนีปิดตลาดต่ำกว่า 1,000 จุด (Downside 8.00%) ซึ่งเป็นระดับที่ดัชนีกลับมาปรับตัวหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน และต่ำกว่า Higher Low ในช่วงครั้งแรกในช่วงเดือนพฤษภาคม

นักลงทุนที่เหมาะกับ Tactical Call ระยะสั้นนี้ควร…

  1. เป็นนักลงทุนที่มีเงินสด หรือสภาพคล่องส่วนเกิน และรับความผันผวนได้สูง
  2. ใช้เงินลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของภาพรวมพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
  3. นักลงทุนต้องยอมรับการ Limit Loss หรือ การตัดขาดทุนได้ทันที

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงทุนระยะยาวตามคำแนะนำ MEVT Call ซึ่งจะเน้นเสาะหาโอกาสการตาม MEVT Framework ซึ่งประกอบไปด้วยปัจจัยเชิงมหภาค (Macro), กำไร (Earnings), มูลค่า (Valuation) และปัจจัยเชิงเทคนิค (Technic) โดยจะเป็นมุมมองการลงทุนในระยะกลางราว 6-12 เดือน ส่วนการขายทำกำไรหรือขายตัดขาดทุน จะมาจากทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยด้านเทคนิค ยังคงบ่งชี้ว่าเวียดนามมี Upside ที่สูงจาก Valuation ที่ซื้อขายกันที่ระดับ PE 9.01x หรือเท่ากับ -1.5 SD เมื่อเทียบกับตัวเองในอดีตช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจยังถูกคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ยใกล้เคียง 6% เหนื่อค่าเฉลี่ยทั่วโลก เราจึงยังคงแนะนำลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม้ดัชนี VN30 จะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,120 จุดตาม Tactical call ในครั้งนี้ก็ตาม เนื่องจาก 

ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญของรูปแบบการลงทุน อาทิ

  • วัตถุประสงค์การลงทุน : MEVT Call เป็นไปเพื่อลงทุนจากปัจจัยพื้นฐานที่ดี Valuation ที่เหมาะสม เพื่อสะสมลงทุนในระยะ 6 – 12 เดือน ขณะที่ Tactical Call เป็นไปเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น
  • เงื่อนไขการลงทุน : MEVT Call เป็นการเข้าลงทุนเพื่อสะสมสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งลดความเสี่ยงผ่านการซื้อเมื่อดัชนีมีมูลค่าถูกเมื่อเทียบกับการเติบโตในระยะยาว ขณะที่ Tactical Call เป็นการเข้าลงทุนตามสัญญาณทางเทคนิค(Technical Analysis) และคุมความเสี่ยงโดยการ Stop Loss

PRINCIPAL VNEQ-A

FINNOMENA Tactical Call VN30

รูปที่ 2 สัดส่วนการลงทุนของ PRINCIPAL VNEQ-A | Source: PRINCIPAL.th. as of 02/06/23 Fund Data As of 30/04/2023

กองทุนเป็นกองทุนความเสี่ยงสูง (ระดับ 6) มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือมีธุรกิจหลัก ในประเทศเวียดนามที่เชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต รวมทั้งตราสารทุนอื่นใดที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องและ/หรือที่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ/หรือกองทุนรวมอื่นที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุน และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ ที่เน้นลงทุนในตราสารทุนประเทศเวียดนาม โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

FINNOMENA Investment Team


คำเตือน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by Krungsri ติดต่อทีม Kept Help Center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

TSF2024