รูปที่ 1 Year to date & 5 Year Average ex COVID-19 Max Drawdown รายดัชนี I Source Bloomberg As of 27/06/2021
การดำเนินนโยบายอย่างเข้มงวดของรัฐบาลกลางต่อกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ กรณีการสั่งปรับ Alibaba, Tencent, TAL Education, Baidu และบริษัทอื่นๆ รวม 13 บริษัท คิดเป็นวงเงินกว่า 2,800 ล้านดอลลาร์ จากการละเมิดกฏหมายต่อต้านการผูกขาด นอกจากนั้นยังได้ดำเนินการออกคำสั่งห้ามที่ส่งผลให้บริษัทต่างๆ ดำเนินกิจการได้ยากขึ้น เช่น การสั่งห้ามเรียนออนไลน์หลัง 3 ทุ่ม, การระบุให้เจ้าหน้าที่ระดับบริหารระมัดระวังการออกสื่อ ส่งผลให้ดัชนี MSCI All China ปรับตัวลงต่ำสุด (Max Drawdown) กว่า 21% นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลง 30.88% นับตั้งแต่ต้นปี
รูปที่ 2 Relative P/E MSCI China to S&P 500 I Source Bloomberg As of 27/06/2021
ซึ่งการปรับตัวลงดังกล่าวนั้นส่งผลให้ระดับมูลค่าเชิงเปรียบเทียบ (Relative Valuation) ระหว่าง MSCI China กับ S&P 500 ลดลงมาสู่ระที่ดับ 1SD จากแรงเทขายอย่างหนักที่เกิดขึ้น
รูปที่ 3 CQQQ ETF Chart TF Day I Source Tradingview.com As of 28/06/2021
ด้าน Invesco China Technology ETF หรือตัวย่อ CQQQ ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีนสามารถสร้างฐานพร้อมปรับตัวยืนเหนือค่าเฉลี่ย 200 วัน และปรับตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้านของกรอบราคา ขณะที่ MACD ก็ตัดขึ้นส่งสัญญาณซื้อเช่นกัน FINNOMENA Investment Team มองว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปโดยใช้เครื่องมือ Fibonacci ที่อัตราส่วน 61.8 เป็นเป้าหมายราคาของการฟื้นตัวในครั้งนี้สำหรับดัชนี CQQQ ETF จะอยู่ที่ 95.16 จุด (12.42%)
รูปที่ 4 iShares MSCI China ETF Chart TF Day I Source Tradingview.com As of 28/06/2021
iShare MSCI China ETF ปรับฐานรับข่าวมาแล้วมากกว่า 20% จากนั้นเริ่มสร้างฐานราคาให้เห็นกรอบอย่างชัดเจนตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา และวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา iShare MSCI China ETF สามารถปรับตัวขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน อีกทั้งเครื่องมือ MACD ก็ตัดขึ้นซึ่งเป็นการส่งสัญญาณซื้อ พิจารณาจากสัญญาณทางเทคนิคแล้ว พบว่า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปโดยใช้เครื่องมือ Fibonacci ที่อัตราส่วน 61.8 เป็นเป้าหมายราคาของการฟื้นตัวในครั้งนี้ซึ่ง iShare MSCI China ETF จะอยู่ที่ 89.34 จุด (7.56%)
FINNOMENA Investment Team มองว่าการสร้างฐานราคาได้หลังการปรับฐานของทั้ง CQQQ ETF และ iShare MSCI China ETF พร้อมฟื้นตัวต่อเนื่องขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานที่แสดงให้เห็นว่ามี Upside ที่น่าสนใจ จึงแนะนำลงทุนในรูปแบบเก็งกำไรภายใต้คำแนะนำ Tactical Call
นักลงทุนที่เหมาะกับ Tactical Call ระยะสั้นนี้ควร…
- เป็นนักลงทุนที่มีเงินสด หรือสภาพคล่องส่วนเกิน และรับความผันผวนได้สูง
- ใช้เงินลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 10-15% ของภาพรวมพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
- นักลงทุนที่รับความผันผวนได้ คาดหวังผลกำไร 7%-12%
- นักลงทุนต้องยอมรับการ Limit Loss หรือ การตัดขาดทุนได้ทันที ในกรณีที่ NAV หรือดัชนีอ้างอิงลงมา ณ จุด Stop Loss > 8% จากต้นทุน สำหรับ CQQQ ETF อยู่ที่ 77.84 จุด ส่วน iShare MSCI China ETF จะอยู่ที่ระดับ 76.42 จุด
- จุดที่เราแนะนำให้พิจารณาชะลอการเข้าซื้อภายใต้คำแนะนำ Tactical Call คือ หาก CQQQ ETF ยืนเหนือระดับ 86 จุด ส่วน iShare MSCI China ETF ยืนเหนือระดับ 84.30 จุด ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci retracement 38.2% แนวต้านสำคัญ และมีอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio) ที่สูงกว่า 50% หรือ 0.5
- แต่สำหรับนักลงทุนที่หาจังหวะสะสมการลงทุนในหุ้น All-China และหุ้นเทคโนโลยีจีน สามารถทยอยสะสมได้ต่อเนื่องตามความเสี่ยงที่รับได้
รายละเอียดกองทุนหุ้นที่แนะนำทั้ง 2 ประกอบไปด้วยกอง TCHTECH และ K-CHINA-A(A)
TCHTECH-A (อ้างอิงโดย CQQQ ETF)
รูปที่ 5 สัดส่วนการลงทุนของ CQQQ ETF I Source Invesco.com As of 31/03/2021
กองทุนเน้นลงทุนใน Invesco China Technology ETF (CQQQ ETF) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุน ให้สะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่ถูกจัดกลุ่มให้อยู่ในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยี (Technology) ของประเทศจีน มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจและมีความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในประเทศใดประเทศหนึ่ง
K-CHINA-A(A) (อ้างอิงโดย iShare MSCI China ETF)
รูปที่ 6 สัดส่วนการลงทุนของ JPMorgan Funds – China Fund, Class JPM China I (Acc) สกุล USD I Source am.jpmorgan.com As of 31/05/2021
กองทุนเน้นลงทุนใน JPMorgan Funds – China Fund, Class JPM China I (Acc) สกุล USD ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในหุ้นบริษัทที่มีถิ่นฐาน หรือดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่ในจีน โดยสามารถลงทุนได้ในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาด A-Shares ไม่เกิน 40% โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรุก (Active Management) เพื่อเอาชนะดัชนีเปรียบเทียบ (Benchmark) อย่าง MSCI China 10/40 Index (Total Return) มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ และมีความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในประเทศใดประเทศหนึ่ง
FINNOMENA Investment Team
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัว ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”