รูปที่ 1: Fed Fund Rate อัตราผลตอบแทนพันธบัตร อายุ 2 ปี และ 10 ปี
Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 06/11/2023
คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25 – 5.50% ซึ่งเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดในรอบ 22 ปี ในการประชุมเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ตามคาด โดยเป็นการคงดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมด้วยท่าทีของ Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ระบุว่าจะพิจารณาถึงผลกระทบสะสมของนโยบายการเงินที่ผ่านมา บนเป้าหมายหลักเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยังย้ำว่าการตัดสินใจในประชุมแต่ละครั้งจะพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจต่าง ๆ ทิ่ออกมา ทำให้ตลาดคาดว่าวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้นมีโอกาสิ้นสุดลงมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจาก Financial conditions ที่ตึงตัวขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีที่ปรับตัวขึ้นส่งผลให้ความจำเป็นในการขึ้นดอกเบี้ยเริ่มลดลง
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.74% และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.97% สะท้อนความคาดหวังว่า Fed จะยุติการขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลดีต่อตลาดตราสารหนี้
รูปที่ 2: สถิติผลตอบแทนตราสารหนี้โลกและ PIMCO GIS Income Fund หลัง Fed หยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย
Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 06/11/2023
สถิติผลตอบแทนโดยเฉลี่ยเมื่อเข้าลงทุนหลังจาก Fed หยุดขึ้นดอกเบี้ย ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 7% เป็นปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้โลกมีความน่าสนใจ อีกทั้งปัจจุบันกองทุนมี YTM ที่สูงถึงระดับ 7.78% และมี duration ที่ 4.4 ปี และมีการปรับ duration เพิ่มขึ้นเพื่อรับการสิ้นสุดของวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้น
UGIS-N
รูปที่ 3: สัดส่วนการลงทุนในกองทุน PIMCO GIS Income FUND
Source: FINNOMENA FUNDS, PIMCO as of 31/10/2023
UGIS-N เป็นกองทุนที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน PIMCO GIS Income Fund (Class I) (กองทุนหลัก) เพียงกองเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งจดทะเบียนในประเทศไอร์แลนด์ (Ireland) และลงทุนในรูปสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ
โดย PIMCO เป็นบลจ. ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารตราสารหนี้โดยเฉพาะ และกองทุน PIMCO GIS Income มีจุดประสงค์หลักเพื่อสร้างผลตอบแทนจากดอกผลที่ได้จากตราสาร บนความผันผวนที่ต่ำ
จึงเหมาะสมแก่การลงทุนเพื่อคาดหวังผลตอบแทนในภาวะที่ปัจจัยเชิงมหภาค (Macro) ที่แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายผ่านจุดสูงสุด และมีอัตราผลตอบแทน (yield) อยู่ในระดับที่สูงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งกองทุนยังมีการปรับ duration การถือครองของตราสารให้เหมาะสมกับแต่ละรอบของวัฎจักรดอกเบี้ย ซึ่ง ณ ปัจจุบันกองทุนมี YTM ที่สูงถึงระดับ 7.78% และมี duration ที่ 4.4 ปีและมีการปรับ duration เพิ่มขึ้นเพื่อรับการสิ้นสุดของวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้น
ขณะที่กองทุนมีความเสี่ยงต่ำกว่า Investment Grade Credit โดยมี Market Weight Spread ที่ต่ำกว่า แต่มี YTM มากกว่าถึง 187 bps
รูปที่ 4: การปรับตัวของทองคำและหุ้นก่อนเหตุการณ์โจมตี 1 วันถึงปัจจุบัน (06/10/2023 – 2/11/2023)
Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 02/11/2023
ทองคำปรับตัวขึ้นรับข่าวความกังวลของสงครามในตะวันออกกลาง เมื่อกลุ่มฮามาสได้เข้าโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ทองคำที่ทำหน้าที่ป้องกันความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ดี เช่น ในภาวะสงคราม ปรับตัวขึ้นไปเหนือ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์อีกครั้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สะท้อนการทำหน้าที่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำได้เป็นอย่างดี ทำให้เรายังคงแนะนำคงสัดส่วนทองคำในพอร์ตการลงทุนที่ 5% ซึ่งจะทำให้ความผันผวนในพอร์ตมีความสมดุลมากขึ้น
รูปที่ 5: Correlation ของทองคำ ดอลลาร์ กับหุ้นโลก
Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 06/11/2023
นอกจากนั้นแล้ว สกุลเงินดอลลาร์ ยังเป็นอีกสินทรัพย์ที่เหมาะแก่การถือครองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากทางสถิติแล้วดอลลาร์มีค่า Correlation กับสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นที่ระดับ -0.4 ถึง -0.5 ซึ่งหมายถึงสามารถกระจายความเสี่ยงการลงทุนได้ จากการที่สกุลเงินดอลลาร์ ยังคงเป็นตัวแทนของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก มีสภาพคล่องที่สูง และยังเป็นที่ต้องการของนานาประเทศทั่วโลก
เพื่อให้การใช้เงินทุนในพอร์ตเป็นไปอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด FINNOMENA FUNDS Investment Team จึงแนะนำถือครองทองคำแบบไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน เพื่อรับสถานะการถือครองทองคำและสกุลเงินดอลลาร์ด้วยเงินทุนเพียงส่วนเดียวเท่านั้น
Portfolio Recommendation
รูปที่ 6: Global Absolute Return (GAR)
Source: FINNOMENA FUNDS as of 06/11/2023
- แนะนำลดสัดส่วนการลงทุน SCBGOLDH 15%
- แนะนำเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน SCBGOLD 5%
- แนะนำเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน UGIS-N 10%
FINNOMENA FUNDS Investment Team จึงแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกองทุน UGIS-N 10% เพื่อรับประโยชน์จากวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้สิ้นสุด อีกทั้งกองทุนมีการปรับ duration เพิ่มขึ้นรับสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ความน่าสนใจในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ด้านทองคำ แนะนำปรับสัดส่วนเข้าลงทุนในกองทุน SCBGOLD ซึ่งไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อรับสถานะการถือครองทองคำและสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย 2 ชนิดด้วยเงินทุนเพียงส่วนเดียวเท่านั้น
รูปที่ 7: Next-Generation Global Growth (GGG)
Source: FINNOMENA FUNDS as of 06/11/2023
GGG เป็นพอร์ตการลงทุนหุ้น 100% ตลอดเวลา (Fully Invested) ซึ่งผ่านการจัดสรรน้ำหนักการลงทุนใหม่ให้เหมาะสมต่อการถือครองในระยะยาว ตามหลักการ Minimum Volatility Optimization เพื่อรับโอกาสร้างผลตอบแทนบนความเสี่ยงที่เหมาะสมแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของภาวะการลงทุนที่ผ่านมา ส่งผลให้สินทรัพย์ต่าง ๆ ในพอร์ตการลงทุนอาจมีมูลค่าไม่ตรงกับสัดส่วนที่แนะนำ ซึ่งอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนได้ FINNOMENA FUNDS Investment Team จึงแนะนำ Rebalance Port เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนกลับเข้าสู่ระดับที่แนะนำอีกครั้ง
ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/
FINNOMENA FUNDS Investment Team
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ FINNOMENA FUNDS ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในกรอบระยะเวลาตามวัตถุประสงค์การลงทุนที่แตกต่างกันตามคำแนะนำ | บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by Krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299