Invesco มองว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ช่วง mid-cycle ซึ่งแน่นอนว่าอัตราการเติบโตจะต้องน้อยลง ด้านอัตราเงินเฟ้อจะแตะจุดสูงสุดราวกลางปี 2022 และจะเริ่มลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนถึงปี 2023 ส่วนธนาคารกลางประเทศพัฒนาแล้ว จะยังคงแนวโน้มนโยบายการเงินแบบตึงตัวอย่างที่เป็นอยู่ต่อไป

การเติบโตของ GDP ในวัฏจักรเศรษฐกิจของสหรัฐฯ​ และกลุ่ม G7

ด้านการแจกจ่ายวัคซีนและการติดเชื้อต่างมีส่วนช่วยให้ประชากรโลกมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น Invesco ยังมองว่าเชื้อไวรัส COVID-19 มีโอกาสกลายพันธุ์แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะน้อยลง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในบางประเทศ จะยังเป็นความเสี่ยงอันเกิดจากมาตรการปิดเมือง และผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน (supply chain disruptions)

ปี 2022 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจเปลี่ยนผ่าน จากการใช้นโยบายเพื่อสนับสนุนการเติบโตไปสู่นโยบายแบบปกติ ทำให้มาตรการทางการคลังลดลง แต่จะมีสภาพคล่องเข้ามาทดแทน จากอัตราการออมเงินสูงขึ้นของประชาชน เนื่องจากธุรกิจที่เติบโตและการได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล

ส่วนความเสี่ยง ยังหนีไม่พ้นอัตราเงินเฟ้อซึ่งหากพุ่งสูงไม่หยุด (ยืนเหนือระดับ 4% ต่อไป) จะกดดันให้ธนาคารกลางต้องใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวมากขึ้นไปอีก

มุมมองต่อสินทรัพย์การเงินของ Invesco

สำหรับมุมมองต่อสินทรัพย์การเงิน Invesco ยังชอบการลงทุนในหุ้นมากกว่าตราสารหนี้ แต่ให้น้ำหนักไปยังกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ส่วนหุ้นสหรัฐฯ ยังได้รับความสนใจโดยเลือกกลุ่ม Quality และ Large-Cap ท่ามกลางภาวะที่เศรษฐกิจเติบโตน้อยลง

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
TSF2024