เช้าวันนี้ (4 ต.ค.) ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นทั้งภูมิภาค หลังคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานดัชนี ISM Manufacturing PMI ออกมาที่ระดับ 50.9 จุด ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 นำโดยยอดคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน ที่ประกาศออกมา 47.1 และ 48.7 อยู่ในแดนหดตัวตามลำดับ สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าท่าทีของ Fed ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.25% ภายในสิ้นปี 2022 นี้อาจลดลง
โดยล่าสุดนั้นความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม Fed วันที่ 2 พฤศจิกายนที่ระดับ 0.75% ลดลงสู่ระดับ 53% จากในช่วง 1 เดือนก่อนหน้าที่อยู่ในระดับ 75%
ส่งผลให้คืนที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวบวกขึ้น อาทิ S&P 500 +2.59%, Dow Jones +2.66% และ Nasdaq +2.27% เป็นต้น พร้อมส่งผ่าน Sentiment เชิงบวกมายังตลาดหุ้นเอเชียในเช้านี้ เช่น
- ดัชนี NIKKEI 225 ปรับตัวขึ้น 2.94%
- ดัชนี KOSPI ปรับตัวขึ้น 2.54%
- ดัชนี BSE Sensex ปรับตัวขึ้น 2.17%
นำโดยหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก และสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์, กลุ่มเครื่องจักร, กลุ่มเครื่องมือที่มีความแม่นยำสูง, กลุ่มค้าส่ง, กลุ่มเหมือง และสินค้าโภคภัณฑ์เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม FINNOMENA Investment Team ยังคงมีมุมมองเชิงระมัดระวังตาม Recession Playbook ต่อการปรับตัวขึ้นของตลาดดังกล่าว จากแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ที่ยังไม่ลดลงสู่ระดับเป้าหมาย กดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีโอกาสผันผวนอย่างต่อเนื่อง ผ่านแรงกดดันจากการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed เพื่อต้องการลดเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมายที่ 2% และยังมีเรื่องของการลดขนาดงบดุล (QT) ที่ตลาดยังไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควรจึงยังคงมีมุมมองเชิงระมัดระวังในการลงทุน (Defensive)
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel