เช้านี้ (28 ก.ย.) ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงต่อ จากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สุดในรอบ 20 ปี หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ หนุนความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว และโอกาสเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในนานาประเทศที่เปราะบางจากการมีหนี้เป็นสกุลเงินสหรัฐฯ สูง และยังส่งผลให้เงินทุนจะไหลออกจากตลาดหุ้นประเทศต่าง ๆ กลับไปยังสหรัฐฯ กดดันให้สกุลเงินประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกอ่อนตัวลงต่อเนื่อง อาทิ สกุลเงินหยวนของจีนอ่อนค่าลง 4% นับจากต้นเดือน สู่ระดับ 7.22 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงวิกฤติ Subprime ปี 2008 จากนโยบายการเงินที่สวนทางกันของ PBOC กับ Fed ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อุปสงค์ภายในประเทศซบเซาจาก Zero-Covid Policy
ส่วนฝั่งญี่ปุ่นค่าเงินเยนเริ่มอ่อนค่าเข้าใกล้ 145 เยนต่อดอลลาร์ เท่ากับระดับที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นเข้าแทรงแซงเมื่อสัปดาห์ก่อน จากนโยบายการเงินที่สวนทางเช่นเดียวกัน โดยนักวิเคราะห์คาดว่าการแทรกแซงนั้น อาจส่งผลให้เงินสำรองของญี่ปุ่นลดลงไปกว่า 3.6 ล้านล้านเยน หรือ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่มั่นคงในอนาคต
และสกุลเงินวอนเกาหลีใต้ที่แตะระดับ 1,439 วอนต่อดอลลาร์ อ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 จากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก และสะท้อนว่าการแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าของธนาคารกลางเกาหลีใต้อาจกระทบต่อทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่มั่นคงในอนาคต เช่นเดียวกับญี่ปุ่น
- ดัชนี KOSPI ปรับตัวลง -2.81%
- ดัชนี HSI ปรับตัวลง -2.19%
- ดัชนี NIKKEI 225 ปรับตัวลง -2.15%
- ดัชนี TOPIX ปรับตัวลง -1.72%
FINNOMENA Investment Team มองว่าในระยะสั้น Sentiment ของตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ผ่านแรงกดดันจากการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed เพื่อต้องการลดเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมายที่ 2% และยังมีเรื่องของการลดขนาดงบดุล (QT) ที่ตลาดยังไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร จึงยังคงมีมุมมองเชิงระมัดระวังในการลงทุน (Defensive) ตาม Recession Playbook
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel