FINNOMENA Market Alert: ตลาดหุ้นเอเชียร่วง 2% - 2.5% ตามแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ช่วงเช้าที่ผ่านมา (19 พ.ค.) ดัชนี Hang Seng ฮ่องกงปรับตัวลง 3.4% ขณะที่ ดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวลง 2.6% และ Topix ญี่ปุ่น ลดลง 2.13% ร่วงแรงตาม Sentiment การลงทุนจากฝั่งสหรัฐฯ คืนที่ผ่านมา เมื่อประกอบกับปัจจัยภายใน อาทิ การรายงานผลประกอบการของหุ้นเทคโนโลยีอย่าง Tencent ที่ระบุว่ากำไรรายไตรมาสลดลงครึ่งนึง น้อยสุดนับตั้งแต่ปี 2014 ส่งผลให้ Tencent ปรับตัวลงกว่า 8.1%

เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่รายงานยอดการส่งออกขยายตัว 12.5% (YoY) ต่ำกว่าคาด เมื่อประกอบกับยอดการนำเข้าที่ขยายตัว 28.2% (YoY) จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงและเงินเยนที่อ่อนค่า ส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ากว่า 6,600 ล้านดอลลาร์ มากที่สุดตั้งแต่ปี 1979 สร้างแรงกดดันให้ดัชนี Nikkei 225 และ Topix

อย่างไรก็ตาม หลังเวลา 11.00 น. ตลาดเริ่มมีการรีบาวด์และลดช่วงลบ จนเหลือติดลบประมาณ 2% – 2.5%

FINNOMENA Investment Team มองว่าในระยะสั้นตลาดเอเชียยังคงผันผวนตาม Sentiment ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีความกังวลในเรื่องของเงินเฟ้อที่จะไปกระทบต่อผลประกอบการณ์ของบริษัทค้าปลีก และยังถูกกดดันจากท่าที Hawkish มากขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งประธาน Fed ยืนยันว่าไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเท่าที่จำเป็นเพื่อชะลอเงินเฟ้อ

🇨🇳 โดยตลาดหุ้นจีน ในระยะสั้นยังต้องติดตามสถานการณ์ COVID-19 ในจีนที่อาจกลับมาระบาดจนต้องใช้มาตรการเข้มงวดอีกครั้ง และให้ติดตามข่าวการผ่อนคลายการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีของจีนหลังมีแนวโน้มว่าจะเริ่มผ่อนคลายจากที่รองปธน. ออกมากล่าวว่าจะสนับสนุน ซึ่งด้วยระดับ Valuation และการเติบโตของ EPS ยังมีความน่าสนใจสะสม เมื่อมาตรการ Covid Zero คลี่คลาย

🇯🇵 ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่น การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ยังต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ซึ่งหนุนให้รัฐบาลและธนาคารกลางของญี่ปุ่นยังคงจะใช้นโยบายผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องรวมถึงค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ทำให้คาดการณ์กำไรยังถูกปรับเพิ่มขึ้น จึงแนะนำให้คงสัดส่วนการลงทุน

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
TSF2024