ดัชนี NASDAQ ปรับตัวลดลงกว่า 4% เป็นการลงแรงที่สุดในวันเดียวในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา และหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ! ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dow Jones ปรับตัวลดแรงเช่นกัน 836 จุด
สาเหตุหลักมาจากแรงขายช่วงนี้แม้ไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามาแต่เป็นการผสมกันระหว่างหลายปัจจัย ดังนี้
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐฯ ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 3.26% หลังการประชุม FED ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดมีความกังวลว่า Yield จะปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องเร็วเกินไปหรือไม่ ซึ่งล่าสุด ทรัมป์ได้ออกมาสัมภาณ์ว่า FED ได้ดำเนินนโยบายตึงตัวทางการเงินมากเกินไปจึงทำให้ตลาดปั่นป่วน ทั้งนี้ล่าสุด Yield 10 ปีสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมาที่ 3.16%
- ปัญหาเรื่องสงครามการค้า และการขาดดุลการคลังของอิตาลี สองประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ตลาดรับทราบอยู่แล้วแต่ก็จัดเป็นปัจจัยลบที่ผลต่อ sentiment ของตลาดในช่วงนี้
- ปัจจัยทางจิตวิทยาเนื่องจากทั้งสองตลาดได้ปรับเพิ่มขึ้นมามากในระยะเวลาที่ผ่านมา เมื่อมีแรงขายและสัญญาณ Technic ของ NASDAQ หลุด MACD ในระดับสัปดาห์
จึงทำให้เกิดแรงขายอย่างรุนแรงต่อเนื่อง
as of 9/10/18
ตลาดเอเชียเช้าวันนี้ปรับตัวในแดนลบตามสหรัฐฯ โดย Nikkei -3.9% Shanghai -2.8% Hangseng -3.4% KOSPI -2.8% คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวผันผวนด้วยเช่นกัน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของ FINNOMENA PORT
FINNOMENA Investment Team มีมุมมองว่าดัชนีหุ้นสหรัฐฯ จะมีการ rebound ในระยะต่อจากนี้ หลังจากนั้นจะเคลื่อนไหวในกรอบ sideway คือไม่สามารถทำ new high ได้เร็ว ๆ นี้ซึ่งจะส่งผลต่อภาวะความเสี่ยงของตลาดหุ้นโลกโดยรวม
- PORT GAR ปัจจุบันมีหุ้น 40% (ไทย 20% เกาหลี 10% จีน 10%) ตราสารทางเลือก 50% ตามกลยุทธ์สร้างภูมิคุ้มกันให้กับพอร์ตตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมา หากตลาดมีการ rebound ในรอบนี้ FINNOMENA Investment Team จะแนะนำลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น
- PORT TOP5 ปัจจุบันมีหุ้น 60% (ไทย 40% เกาหลี 20%) FINNOMENA Investment Team จะแนะนำลดการลงทุนในส่วนของหุ้นอีกบางส่วน เมื่อตลาดมีการ rebound ในรอบนี้เช่นกัน
- PORT GCP / GIF ปัจจุบันมีหุ้นไทยอย่างเดียว 20% FINNOMENA Investment Team แนะนำให้คงพอร์ตในสัดส่วนปัจจุบัน
- PORT GOAL / 1stM แนะนำให้คงสัดส่วนการลงทุน และทำ Rebalance เข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ราคาตกลงมาตามระบบ
- PORT BIC เป็นพอร์ตสำหรับเลือกลงทุนแต่ละชนิดสินทรัพย์ และธีมการลงทุนในระยะยาว ดังนั้นการปรับฐานของราคาเป็นโอกาสในการทยอยสะสม Best-in-class หุ้นไทย และ Best-in-class หุ้นเทคโนโลยี
FINNOMENA Investment Team รายงาน
แท็ก: