FINNOMENA Tactical Call: รอบ Bear Market Rally ใกล้จบ ล็อกกำไรเตรียมเงินไว้รอบหน้า

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 63 ที่ผ่านมา FINNOMENA Investment Team มีการออก Tactical Call ซึ่งนักลงทุนสามารถตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่นี่ https://www.finnomena.com/finnomena-ic/bear-market-rally

มาจนถึงวันนี้ ผ่านมาในเวลาเพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์ดี เราขอใช้โอกาสนี้อัปเดตสถานการณ์และพัฒนาการของตลาดทุนให้นักลงทุนได้ทราบกัน

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเฉพาะสัปดาห์นี้ จะพบว่า ดัชนี Dow Jones ปรับตัวขึ้นมาถึง 12.67%, ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 12.1% ซึ่งทำสถิติรายสัปดาห์ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2517 หรือย้อนกลับไปเมื่อ 46 ปีก่อน ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นรอบนี้น้อยกว่า 2 ดัชนีแรก โดยขึ้นมาที่ 10.59%

ปัจจัยบวกที่ตลาดได้แรงสนับสนุนคือ นักลงทุนคาดการณ์กันว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ทั่วโลก ได้ผ่านจุดที่อันตรายที่สุดไปแล้ว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

FINNOMENA Tactical Call: รอบ Bear Market Rally ใกล้จบ ล็อกกำไรเตรียมเงินไว้รอบหน้า

รูปที่ 1 จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลก l Source : covid.finnomena.com As of 08/04/2020

และความคาดหวังว่า จะมีมาตรการเยียวยา ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การช่วยเหลือภาคครัวเรือน หลังจากที่ตัวเลขการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานขึ้นมาทะลุ 6 ล้านตำแหน่งในสัปดาห์ก่อน ซึ่งก็เป็นอย่างที่ตลาดคาดการณ์ เมื่อคืนนี้ (วันที่ 9 เม.ย.) ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ประกาศมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินผ่านโครงการเงินกู้มูลค่า $2.3 trillion สนับสนุนทางด้านเงินทุนให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ของสหรัฐ เช่น รัฐบาลท้องถิ่น, ภาคธุรกิจ และภาคครัวเรือน เพื่อรับมือกับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส

ทั้งนี้ในรายละเอียดเบื้องต้น ดังนี้

  1. เฟดจะเข้าช่วยเหลือรัฐต่าง ๆ ผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรระยะสั้นของรัฐบาลท้องถิ่นโดยตรง ซึ่งคาดว่าจะใช้เม็ดเงินในส่วนนี้มูลค่ามากกว่า $500 billion
  2. สนับสนุนทางด้านการเงินให้กับธนาคารต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจ SME ที่มีรายได้ไม่เกิน 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีพนักงานไม่เกิน 10,000 คน โดยสัญญาเงินกู้จะมีระยะเวลา 4 ปี และสามารถยืดระยะเวลาการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยออกไปได้ 1 ปี โดยจะใช้วงเงินราว $600 billion รวมถึงโครงการเงินทุนสนับสนุนการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็กเพื่อรักษาสภาพคล่องของธุรกิจให้เพียงพอสำหรับการจ้างค่าจ้างพนักงาน
  3. อัดฉีดเม็ดเงินให้กับภาคครัวเรือนและธุรกิจผ่านการเข้าซื้อตราสารหนี้ทั้งจากตลาดแรกและตลาดรองอีกอย่างน้อย $850 billion

จะเห็นว่า ไม่ใช่แค่ช่วยเหลือให้สภาพคล่องของสถาบันการเงินกลับมาเป็นปกติ แต่ยังเข้าไปช่วยเหลือภาคธุรกิจ (Real Sector) อย่างเข้มข้น รวมถึง มาตรการในข้อ 3. แสดงให้เห็นว่า เฟดอาจนำเงินเข้าไปลงทุนในกองทุนรวมผ่าน ETFs เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ตลาดตราสารหนี้ด้วย

ปัญหาที่สำคัญ ในแง่ของการดำเนินธุรกิจ ซึ่งก็คือ “สภาพคล่อง (Liquidity) ดูเหมือนจะถูกปิดทุกประตูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ตลาดคลายกังวลลงอย่างมากใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

แต่หลังจากนี้ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

เพราะถึงจะช่วยให้สภาพคล่องดีขึ้น แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจก็ยังไม่กลับมาเป็นปกติ และการจ้างงานก็ดูเหมือนจะลดลงเมื่อมองจากภาพกว้าง ๆ ทั้งโลก เรามองว่า ตลาดหุ้นโลกหลังจากนี้ จะกลับมาให้ความสนใจกับผลประกอบการไตรมาส 1/63 ที่จะทยอยออกมา ซึ่งจะนำมาซึ่งการปรับประมาณการในช่วงที่เหลือของทั้งปี ตรงนี้ต่างหาก ที่เรามองว่า เป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์การลงทุน

มุมมองทางเทคนิค (Technical Analysis)

กราฟของดัชนี S&P 500 รายชั่วโมง (60min Chart) ยืนเหนือ Moving Average 200 นาทีได้ หลังจากได้สัญญาณกลับตัวเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 63 ที่ผ่านมา เราให้เป้าของการรีบาวน์รอบนี้ อยู่ที่ Gap บริเวณ 2,700 จุด ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ S&P 500 ขึ้นมาปิดที่ 2,789.82 จุด และชน Fibonacci Retracement 61.8% ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงสูงที่การปรับฐานจะจบรอบ พร้อม ๆ กับการก่อตัวขึ้นของ Bearish Divergence

FINNOMENA Tactical Call: รอบ Bear Market Rally ใกล้จบ ล็อกกำไรเตรียมเงินไว้รอบหน้า

รูปที่ 2 กราฟดัชนี S&P 500 (TF 60 min) I Source : Tradingview As of 10/4/2020 

กราฟรายวัน (Daily Chart)

S&P 500 ดีดกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดแล้วครึ่งทางของรอบปรับฐานที่มีมา ซึ่งตามทฤษฎีคลื่น Elloitt Wave นั้น Bear Market Rally สามารถขึ้นมาได้ที่ระดับ Fibonacci Retracement 50.0% และ 61.80% ซึ่ง ณ ตอนนี้ถึงเป้าหมายแรกของการรีบาวน์แล้ว

FINNOMENA Tactical Call: รอบ Bear Market Rally ใกล้จบ ล็อกกำไรเตรียมเงินไว้รอบหน้า

รูปที่ 3 กราฟดัชนี S&P 500 (TF Day) I Source : Tradingview As of 10/4/2020

FINNOMENA Investment Team วิเคราะห์ว่า Bear Market Rally หรือ การวิ่งปรับตัวขึ้นในตลาดหมี Wave B (Tactical Rebound) ใกล้จบ ล็อกกำไรเตรียมเงินไว้รอบหน้า

และให้คำแนะนำในการ Take Profit เพื่อล็อกกำไรได้ ณ ระดับนี้

รวมถึงนักลงทุนที่ลดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนในรอบก่อนไม่ทัน สามารถใช้จังหวะนี้ในการทยอยลดพอร์ต ปรับลดความเสี่ยงที่เราอาจจะเจอกันอีกหลังผลประกอบการไตรมาส 1/63 ทยอยออกมา

*หมายเหตุ กองทุน TMBGQG ปิดทำการซื้อขายในวันจันทร์ที่ 13 เมษายน 2563 เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในวันอีสเตอร์

FINNOMENA Investment Team

—-

คำเตือน

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน

TSF2024