best-what-happen-bdms

หลังจากที่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันดีในนาม BDMS ได้ประกาศงบไตรมาสแรกของปี 2560 ออกมาในวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ราคาหุ้น BDMS ก็ตกลงอย่างต่อเนื่อง

เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากกำไรสุทธิของ BDMS ที่ประกาศออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งจากบทวิเคราะห์ส่วนใหญ่นั้นประมาณการณ์กำไรของ BDMS ว่าจะเติบโตเล็กน้อยในไตรมาสแรก แต่ผลออกมาผิดคาดเนื่องกำไรสุทธิของ BDMS นั้นลดต่ำลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 บริษัทรายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,288 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 1 ของปี 2559 บริษัทรายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,406 ล้านบาท เติบโต 5.16% จากช่วงเวลาเดียวกัน
ไตรมาสที่ 1 ของปี 2560 บริษัทรายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,973 ล้านบาท หดตัว 18.00% จากช่วงเวลาเดียวกัน

ถ้าเทียบจากบทวิเคราะห์ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประมาณการณ์กำไรของ BDMS ไว้ก็พูดได้ว่ารายงานกำไรที่ออกมานั้นค่อนข้างน่าผิดหวัง เพราะนอกจากไม่เติบโตแล้วยังหดตัวค่อนข้างมาก เรียกได้ว่าได้กำไรน้อยกว่าหลายปีในช่วงเวลาที่ผ่านมาเสียอีก
คำถามคือ… เป็นอะไรไป BDMS

ราคาหุ้น BDMS ตอบสนองต่องบการเงินที่ประกาศออกมาค่อนข้างจะทันที โดยวันถัดมาจากประกาศงบ ราคาหุ้น BDMS ปรับตัวลดลง 6.31% และลดลงอีก 2.59% ในวันถัดมา รวม 2 วันมูลค่ากิจการของ BDMS หายไป 27,883,721,722 บาท ซึ่งเทียบเท่ากับมูลค่ากิจการขนาดเล็กในตลาด MAI เป็นสิบบริษัทรวมกันเสียอีก

เกิดอะไรขึ้นกับ BDMS ?!

รายได้ในไตรมาสแรกของปี 2560 อยู่ที่ 17,395 ล้านบาท ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย (1%) จากปีก่อนหน้าที่ 17,297 ล้านบาท เนื่องมาจากการลดลงของผู้ป่วยชาวไทยซึ่งในปีนี้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก และผู้ป่วยชาวต่างชาติเติบโตเล็กน้อยประมาณ 4%

ในขณะที่รายได้โตน้อยจนแทบจะเรียกได้ว่าทรงตัว แต่ค่าใช้จ่ายกลับเติบโตในอัตราที่มากกว่า ได้แก่ ต้นทุนการรักษาพยาบาลโต 3% ค่าใช้จ่ายในการบริหารโต 5% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรองรับการขยายตัวของโรงพยาบาลในเครือรวมไปถึงร้านขายยา

ค่าใช้จ่ายที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ต้นทุนทางการเงินหรือค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ของบริษัทเติบโตกว่า 70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือกระโดดจาก 213 ล้านไปเป็น 363 ล้านในปีนี้

ผู้คนกังวลกับกำไรที่ลดลงของ BDMS เท่านั้นหรือ?

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่มองข้ามไม่ได้เลย คือ BDMS กำลังแสดงสัญญาณของการขยายงานอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการระดมเงินทุนผ่านการกู้เงิน หรือแม้กระทั่งการขายเงินลงทุนในโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เพื่อจะมารองรับการเติบโตในอนาคต

หลังจาก BDMS ซื้อที่ดินบริเวณโรงแรมปาร์คนายเลิศที่ผ่านมา นักลงทุนทุกคนต่างก็รู้ดีว่าบริษัทกำลังจะกลับเข้าสู่ยุค “ลงทุนหนัก” อีกครั้งแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนจำนวนมากอย่างโรงพยาบาล ซึ่งการลงทุนดังกล่าวอาจจะกดดันการเติบโตของกำไรบริษัทได้อย่างต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง จวบจนมาถึงไตรมาสนี้ นักลงทุนก็เริ่มเห็นภาพชัดเจนว่าระยะเวลาดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

คำถามคือการตกต่ำของกำไรในช่วงระยะเวลานี้คือวิกฤตหรือโอกาส?

การลงทุนอย่างหนักหน่วงเพื่อหวังจะเก็บผลผลิตในอนาคตอันไม่ใกล้จากการหว่านไถเงินลงทุนในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ นี่คือระยะเวลา “ซื้อ” หรือ “ขาย” นักลงทุนทุกคนคงต้องหาคำตอบให้กับตัวเองในคำถามนี้

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ BDMS อาจจะกำลังเริ่มต้นตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป

ลงทุนศาสตร์ – Investerest

TSF2024