ช่วงนี้การลงทุนที่ประเทศเวียดนามเป็นที่นิยมขึ้นตามลำดับ นักลงทุนไทยเริ่มย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะตลาดหุ้นไทยค่อนข้างแพง หุ้นคุณภาพดีนั้นมีพีอีสูงเสียดฟ้า
ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ศึกษาเรื่องการลงทุนในประเทศเวียดนามมาเป็นปี อ่านหุ้นทุกตัวในตลาดเวียดนามจนหมด เคยไปสัมมนา เคยไปเยี่ยมชมกิจการ เคยไปเที่ยวเวียดนาม และมีพอร์ตพร้อมที่จะลงทุนเรียบร้อย
สุดท้ายผมก็ไม่ได้ลงทุนในประเทศเวียดนาม
ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้พูดว่าการลงทุนในเวียดนามนั้นไม่ดี แต่ผมเพียงอยากเล่าให้ฟังว่าเวียดนามนั้นไม่เหมาะกับตัวผมเท่าไหร่
ก่อนอื่น เวียดนามเหมาะกับใครบ้าง?
เวียดนามเหมาะกับนักลงทุนแนว quantitative เนื่องจากหุ้นในเวียดนามราคาค่อนข้างถูก และมีหุ้นที่งบการเงินสวยๆ มากมาย การลงทุนเชิง quant น่าจะสร้างผลตอบแทนดีๆ ได้ไม่ยาก
เวียดนามเหมาะกับนักลงทุนแนว VI สไตล์เบน เกรแฮม เนื่องจากหุ้นมากมายนั้นราคาถูก การซื้อกิจการหลากหลายตัวและรอจนราคานั้นสะท้อนมูลค่าก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีเช่กัน
แต่เวียดนามไม่เหมาะกับผมเลย
ผมเองไม่เคยนิยามว่าตัวเองลงทุนแบบไหน (เรียกคร่าวๆ ได้ว่าวีไอ แต่วีไอนั้นมีความหลากหลายมากมาย) แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเน้นคือ ผมลงทุนแล้วผมต้องกินข้าวได้นอนหลับสบายไร้ความกังวล
ผมรู้จักกิจการเวียดนามน้อยเกินไป สมมติผมลงทุนในไทย ผมก็จะไปลองใช้บริการ ไปดูกิจการด้วยตนเอง คือผมไม่ได้วิเคราะห์แต่งบ แต่ผมวิเคราะห์การตลาด การแข่งขัน ธุรกิจ และความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน
แต่ผมเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ยากในเวียดนาม ผมไม่รู้ว่าคนเวียดนามคิดกับสินค้าบริษัทที่สนใจอย่างไร ยิ่งธุรกิจส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรม B2B ยิ่งยากเกินเข้าถึง
ผมจึงขอพักเวียดนามไว้ก่อนในเวลานี้ สารภาพว่าผมยังเก่งไม่พอที่จะลงทุนในเวียดนาม ทุกครั้งที่ผมพบเพื่อนลงทุนในเวียดนาม ผมจะรู้สึกว่าเขาเก่งมาก และจะแอบไปฟังความรู้จากเพื่อนเหล่านี้เสมอ
การลงทุนแต่ในประเทศอาจไม่ได้สร้างผลตอบแทนให้ผมได้มากที่สุด แต่อย่างน้อย มันก็ทำให้ผมหลับฝันดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม Best & Co คาดหวังผลตอบแทนอยู่ที่ 10% ต่อปี ซึ่ง ณ ขณะนี้ ผมคิดว่าผมยังพอจะมองหาหุ้นที่สร้างผลตอบแทน 10% ต่อปีได้
ผมจึงยังเลือกจะลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อไปจนกว่าที่ผมจะหาหุ้นไทยดีดีไม่ได้แล
ลงทุนศาสตร์ – Investerest