Competitive Advantage (CA) หรือความสามารถในการแข่งขัน คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่างผู้แพ้และผู้ชนะ
ว่าแต่อะไรคือ CA?
ตอบง่ายๆ คือความได้เปรียบอะไรสักอย่างที่สามารถทำให้บริษัทสร้างผลประกอบการที่ดีกว่าตลาดได้
CA มีมากมายหลายอย่างและไม่มีอะไรตายตัว และนั่นเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องมองหาในบริษัทให้เจอ บางบริษัทอาจมีสัมปทานที่เอื้อต่อการสร้างผลกำไรในระยะยาว บางบริษัทมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ บางบริษัทอาจมีแบรนด์สินค้าที่ลูกค้าจงรักภักดีมาก และสิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งการที่บริษัทนั้นจะชนะตลาดได้
แน่นอนว่าการชนะตลาดคือการสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นได้ในระยะยาว ทั้งในแง่ของผลประกอบการและมูลค่าบริษัท
นักลงทุนเองก็ต้องมี CA เช่นกัน
CA ของการลงทุนคือสิ่งที่ทำให้นักลงทุนคนหนึ่งเหนือกว่าตลาดได้ ย้ำว่าเหนือกว่าตลาด ไม่ใช่เป็นที่หนึ่ง แต่ดูในภาพรวมแล้ว ผลตอบแทนของนักลงทุนคนนั้นเหนือกว่าตลาดในระยะยาวก็พอ
นักลงทุนบางคนอ่านงบเก่งมาก คนเหล่านี้จะเข้าใจโครงสร้างทางบัญชีอย่างดี หลายครั้งที่บริษัทเกิดขาดทุนพิเศษ นักลงทุนกลุ่มนี้จะสามารถเข้าลงทุนในเวลาที่ราคาหุ้นถูกมาก ผลตอบแทนงดงาม
นักลงทุนบางคนวิเคราะห์ธุรกิจเก่งมาก มองขาดว่าบริษัทไหนไปรอด ไปไม่รอด ในระยะยาวชนะหรือแพ้ เข้าใจแต่ละอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง
นักลงทุนบางคนขยันมาก อ่านข้อมูลกิจการอย่างมากมายมหาศาล ติดตามบริษัท อ่าน 56-1 ดู opp day ไป AGM ไป CV อัพเทคข้อมูลมากมายมหาศาลเพื่อคัดสรรบริษัทที่ดี
นักลงทุนบางคนเข้าใจกิจการบางประเภทอย่างลึกซึ้ง บางคนอยู่ในวงการเชิงลึก เข้าใจโครงสร้างราคาปิโตรเคมี เข้าใจกลไกการหารายได้ของธุรกิจประกันภัย เข้าใจต้นทุนของโทรคมนาคมอย่างละเอียด วิเคราะห์และประมาณงบได้อย่างแม่นยำ
เรื่องเหล่านี้ต่างเป็น CA ของนักลงทุนทั้งสิ้น และ CA จะสามารถเป็นทักษะหรือความสามารถแบบไหนก็ได้ ขอแค่มันทำให้ชนะตลาดได้ก็พอ
คำถามที่สำคัญในตอนนี้คือ CA ของคุณคืออะไร?
นักลงทุนทุกคนควรกลับมานั่งทบทวนว่าอะไรเป็นทักษะที่ทำให้เราเอาชนะตลาดได้ มันสามารถสร้างผลกำไรได้ในระยะยาวซึ่งไม่ได้มาจากดวงใช่หรือไม่ และมันจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีได้หรือเปล่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นักลงทุนระยะยาวทุกคนต้องคำนึงถึง
หากวันนี้คำตอบยังไม่ชัดเจน แนะนำให้รีบสร้าง CA ขึ้นมา รีบหาให้เจอว่าอะไรคือข้อได้เปรียบที่เราน่าจะมี หาให้เจอว่าจุดเด่นจุดด้อยของเราอยู่ตรงไหน
เมื่อพบข้อได้เปรียบของตัวเองแล้ว จงอยู่แต่ในเกมที่เราได้เปรียบเท่านั้น อย่าออกนอกความเชี่ยวชาญของตนเอง
ยกตัวอย่างผมเป็นคนที่ถนัดการวิเคราะห์หุ้นรายตัว ถนัดการประเมินมูลค่า แต่ไม่ถนัดการวิเคราะห์ภาพเศรษฐกิจมหภาค ดังนั้น ผมจะโฟกัสอยู่ในหุ้นรายตัวเท่านั้น ผมจะประเมินมูลค่าหุ้นทุกตัวที่ผมสนใจ มีราคาเป้าหมายเข้าซื้อของหุ้นเป็นร้อยตัวอยู่ในใจ วันไหนตลาดตกใจผมจะเข้าซื้อทันที แต่ผมจะหลีกเลี่ยงการลงทุนที่ต้องวิเคราะห์มหภาคมากๆ เช่น กองทุนรวมดัชนี ทองคำ น้ำมัน กองทุนรวมดัชนีหุ้นต่างประเทศ เพราะผมไม่เชี่ยวชาญ ผมจึงเลือกที่จะไม่ลงแข่ง
เราไม่จำเป็นต้องชนะในทุกการแข่งขัน แต่ขอให้เราชนะในการแข่งขันที่เราอยากจะชนะก็พอ
อย่าฟาดลูกบอลทุกลูกที่วิ่งเข้ามาข้างหน้า แต่จงรอ เมื่อโอกาสมาถึงก็ซัด… ตู้มมมมม โฮมรัน
การลงทุนมันก็เท่านี้เอง
ลงทุนศาสตร์ – http://www.investerest.co/