– LVMH เครือบริษัทสินค้าหรูรายใหญ่ที่สุดในโลก เช่น Louis Vuitton, Dior และ Tiffany เผยยอดขายไตรมาส 4/2566 อยู่ที่เกือบ 2.4 หมื่นล้านยูโร (2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ) เพิ่มขึ้น 10%
– การเติบโดดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากดีมานด์แฟชั่นระดับ Hi-end ที่แข็งแกร่งของบริษัทในช่วงปลายปี รวมถึงจากผู้ซื้อชาวจีน
– ตามข้อมูลจาก HSBC อัตราการเติบโตดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 9% ในขณะที่ยอดขายในปี 2566 อยู่ที่ 8.615 หมื่นล้านยูโร (9.334 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ) สูงกว่าการคาดการณ์ และเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13%
– Bernard Arnault CEO ของ LVMH กล่าวกับนักวิเคราะห์ ว่า “ผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความต้องการมากที่สุดในโลก” โดยกล่าวเสริมว่าเขาพอใจกับอัตราการเติบโตของ LVMH และ “มั่นใจมาก” ถึงการเติบโตในปี 2567
– Jean-Jacques Guiony ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ LVMH กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยอดขายของ Louis Vuitton จากนักท่องเที่ยวชาวจีนระดับ Hi-end ในยุโรปแตะระดับ 70% ของระดับที่ทำได้ในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19
– ยอดขายของแผนกสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังของ LVMH ซึ่งรวมถึงบรรดาแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในเครืออย่าง Louis Vuitton และ Dior เพิ่มขึ้น 9% ในไตรมาส 4/66 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เล็กน้อยที่ 10%
– LVMH เสนอจ่ายเงินปันผล 13 ยูโรต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 12 ยูโรเมื่อปีที่แล้ว และบริษัทคาดการณ์ว่าจะเติบโตต่อไปในปีหน้า แม้จะมีบริบททางเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่แน่นอนก็ตาม
อ้างอิง