วิเคราะห์หุ้นไทย ไปต่อหรือพอแล้ว

จากกรณีที่ตลาดหุ้นไทย (SET Index) หลุดจุดจิตวิทยา 1,300 จุด ทำจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี ใกล้เคียงกับช่วงปี 2563 ที่เจอกับวิกฤตโควิด-19

ประเด็นกดดันนั้นมาจากความกังวลปัญหาความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล และจะมีการตัดสิน 3 คดีใหญ่ทางการเมือง ส่งผลให้เงินลงทุน Fund Flow ไหลออกตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ต้นแบบนักลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investor) เมืองไทย เขียนบทความถึงหุ้นไทยว่า “ท้อแท้-สิ้นหวัง” มองว่าการปีนี้หุ้นไทยทำผลงานแย่ที่สุดในโลก อาจไม่ใช่ปัญหาชั่วคราว แต่เป็นปัญหาถาวรที่เกิดจากโครงสร้างที่แก้ไขยาก

โครงสร้างที่ว่านั้น คือจำนวนประชากรที่แก่ตัวลงอย่างรวดเร็ว, ระบบการปกครองประเทศ, อุตสาหกรรมยุคเก่าที่กำลังอิ่มตัว ดังนั้น หุ้นไทยจึงแย่ลงเรื่อย ๆ สวนทางกับทั่วโลกที่ต่างก็ปรับตัวขึ้นทั่วหน้า

– อ่านบทความเต็ม คลิก

10 ปีที่ผ่านมา หุ้นไทยยังเหมือนเดิม

Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 17/08/2024

Finnomena Funds ได้สำรวจกำไรหุ้นไทย 10 ปีที่ผ่านมา เทียบกับตลาดหุ้นสำคัญอื่น ๆ พบว่ากำไรหุ้นไทยเหมือนเดินถอยหลัง โดยกำหนดให้ EPS เริ่มต้นจาก 100 เท่ากันในปี 2014 จนมาถึงปี 2024 หุ้นไทยมี EPS เหลือ 96.4

ตรงข้ามกับหุ้นอินเดีย เวียดนาม ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ที่เติบโตชัดเจน หรือแม้แต่หุ้นจีนเองก็ยังมีการเติบโตที่เหนือกว่าหุ้นไทย

Valuation หุ้นไทย ถูกพอหรือยัง

Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 17/08/2024

Valuation ที่ถูก ยังคงเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้หุ้นไทยมีความน่าสนใจ เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก

แต่ว่าสิ่งที่เป็นคำถามก็คือ แค่นี้ถูกพอหรือยัง? ตอนนี้ SET Index เทรดกันบน P/E 13 เท่า EPS อยู่แถว 100 แล้วถ้ากำไรหุ้นไทยยังไม่โตไปมากกว่านี้ สิ่งที่น่ากลัวคือการลงไปเทรดที่ P/E 10-12 เท่า ซึ่งเป็นฐานใหม่ที่น่ากังวล

เพราะเศรษฐไทยโตเพียง 1.x% มา 7 ไตรมาสติด ทำให้ภาพรวมดูไม่สู้ดีนัก และย่อมส่งผลต่อกำไรบริษัทจดทะเบียนในอนาคต

Fund Flow ไหลออกจากหุ้นอย่างต่อเนื่อง

Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 17/08/2024

คำแนะนำการลงทุนหุ้นไทย

FundTalk Call จึงแนะนำ Switch เงินออกจากหุ้นไทยไปลงทุนหุ้นโลก เช่น สหรัฐฯ MEGA10-A หุ้น AI TISCOAI ตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศ MUBONDUH-A และหุ้นตลาดเกิดใหม่ K-SEMQ

โดยเฉพาะคนที่มีน้ำหนักหุ้นไทยเยอะเกิน 15-20% ของพอร์ต ควรลดสัดส่วนหุ้นไทยลงบ้าง สำหรับการจัดพอร์ตที่เหมาะสม แนะนำกระจายลงทุนในโลกทั้งใบ แบ่งเป็น

  • สหรัฐฯ 50%
  • ยุโรป 15%
  • จีน 15%
  • ญี่ปุ่น 5%
  • Asia ex China 15%

 

นอกจากนี้ คนที่ถือกองทุน LTF ติดมานาน 7-10 ปี ตั้งแต่ช่วงปี 2562 ลงไป ส่วนใหญ่ขาดทุนประมาณ 20-30% มุมมอง FundTalk เห็นว่าได้เวลา Cut Loss แล้วโยกเงินก้อนนี้ไปหาตลาดที่มีโอกาสมากกว่า เนื่องจากเห็นหลุดไทยหลุดโซนขาลง และปัจจัยพื้นฐานยังไม่ฟื้นเต็มที่


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299