Highlight (คลิกเลือกหัวข้อที่สนใจได้เลย)
- TSLA พุ่งแรงทะลุสถิติ 52 สัปดาห์ รับอานิสงส์นโยบาย Trump
- ผลักดัน Tesla สู่โอกาสทอง
- Musk & Trump ความสัมพันธ์ที่โลกต้องจับตา
- Tesla ฟื้นตัวแกร่ง ไตรมาส 3 กำไรโตเกินคาด
- กองทุนที่ถือหุ้น Tesla ในสัดส่วนที่สูง
หุ้น Tesla (TSLA) ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 14% หลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีออกมาว่า Donald Trump จะหวนกลับคืนสู่เนียบขาวอีกครั้ง สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่า Tesla จะได้รับโอกาสทางธุรกิจและเติบโตภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนใหม่
Tesla มีแนวโน้มที่จะได้รับผลดีจากนโยบายของ Trump ที่อาจลดการสนับสนุนด้านเงินอุดหนุน สำหรับธุรกิจพลังงานทางเลือกและรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบมากที่สุดต่อคู่แข่งรายเล็ก ๆ
นอกจากนี้ แผนการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนยังเป็นเกราะป้องกันทำให้รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนไม่สามารถเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ได้ง่าย ๆ
TSLA พุ่งแรงทะลุสถิติ 52 สัปดาห์ รับอานิสงส์นโยบาย Trump
ราคาหุ้น Tesla ตั้งแต่ต้นปี 2024 | Source: CNBC as of 7/11/24
Dan Ives นักวิเคราะห์จาก Wedbush สะท้อนมุมมองนี้ผ่านบทวิเคราะห์ถึงนักลงทุนว่า “Tesla มีขนาดและศักยภาพที่เหนือกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน”
พร้อมชี้ว่าสถานการณ์นี้จะยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Tesla และ Elon Musk ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีเงินอุดหนุน EV และมีกำแพงภาษีสูงสำหรับผู้เล่นจากจีน
สะท้อนผ่านราคาหุ้น TSLA ที่พุ่งทะยาน +14% ทำลายสถิติ 52 สัปดาห์ ขณะที่คู่แข่งจากจีนและสหรัฐฯ ร่วงยกแผง โดย Nio จากจีนร่วงลง -5.3%, Rivian -8.3% และ Lucid Group ปรับตัวลง -5.3%
ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น TSLA ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินของ Musk พุ่งขึ้นเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6.87 แสนล้านบาท
ผลักดัน Tesla สู่โอกาสทอง
ความสัมพันธ์ระหว่าง Musk และ Trump ดูจะแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ สังเกตได้จากการกล่าวสุนทรพจน์แห่งชัยชนะของ Trump ที่ระหว่างนั้นได้กล่าวชื่นชม Musk ว่าเป็น “ยอดอัจฉริยะ” และ “ดาวดวงใหม่” หลังจากที่ Musk ใช้เวลาหลายสัปดาห์สนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของ Trump ในเพนซิลเวเนียเพื่อให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม Wedbush Securities ได้ระบุไว้เมื่อต้นปีว่าการที่ Trump กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 อาจไม่เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรม EV โดยรวม แต่กลับเป็นโอกาสทองสำหรับ Tesla ที่มีความพร้อมทั้งด้านขนาดและศักยภาพ โดยเฉพาะเมื่อนโยบายภาษีนำเข้าจะช่วยสกัดการบุกตลาสหรัฐฯ ของ BYD และ NIO จากจีน
Musk & Trump ความสัมพันธ์ที่โลกต้องจับตา
Elon Musk เป็นผู้สนับสนุนหลักในการรณรงค์หาเสียงของ Trump โดยได้ใช้ทรัพยากรและแพลตฟอร์ม X ของเขาอย่างเต็มที่ รวมถึงการทุ่มทรัพยากรกว่า 119 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,000 ล้านบาท) Super PAC หรือกลุ่มรณรงค์ทางการเมืองของ Trump และการจัดแคมเปญแจกของรางวัลในรัฐ Swing State ที่เป็นสมรภูมิสำคัญ ทำให้ Elon Musk กลายเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของแคมเปญนี้
นอกจากนี้ Trump ยังประกาศว่าในสมัยที่ 2 ของเขา เขามีแผนจะเชิญ Musk เข้าร่วมการบริหารงานเพื่อลดภาระการใช้จ่ายภาครัฐ โดย Musk ได้กล่าวไว้ในงานชุมนุมที่ Madison Square Garden ว่าเขาสามารถลดงบประมาณรัฐบาลได้ถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ หากได้รับตำแหน่งดังกล่าว
ด้วยตำแหน่งพันธมิตรที่ใกล้ชิดในทำเนียบขาวอาจเปิดโอกาสให้ Musk ขยายธุรกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะ SpaceX ที่ปัจจุบันครองตลาดการส่งดาวเทียมของรัฐบาลสู่อวกาศ และมีโอกาสได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจากความสัมพันธ์ทางการเมืองนี้
ท้ายที่สุด นโยบายลดภาษีสำหรับบริษัทและผู้มีความมั่งคั่งสูงของ Trump ยิ่งเป็นปัจจัยบวกที่ Musk และนักลงทุนต่างจับตามอง ซึ่งอาจส่งผลดีต่อทั้งมูลค่าหุ้นและความมั่งคั่งส่วนตัวของมหาเศรษฐีอัจฉริยะรายนี้ในอนาคต
Tesla ฟื้นตัวแกร่ง ไตรมาส 3 กำไรโตเกินคาด
ผลประกอบการของ Tesla ไตรมาส 3/2024 | Source: App Economy Insights as of 7/11/24
Tesla เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2024 ด้วยรายได้และยอดส่งมอบรถยนต์เติบโต 7.5% และ 6.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้จะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด แต่อัตรากำไรจากการดำเนินงานกลับเติบโตดีกว่าคาดที่ 7.5% พร้อมคาดยอดส่งมอบรถยนต์ปี 2025 จะเติบโต 20-30% สะท้อนการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและควบคุมต้นทุน
รายได้หลักในไตรมาส 3/2024 เพิ่มขึ้นเป็น 21,670 ล้านดอลลาร์ เติบโต 17% จากปีก่อน ซึ่งมาจากยอดส่งมอบรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น การเติบโตของธุรกิจพลังงานและการจัดเก็บพลังงาน การรับรู้รายได้ของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Full Self-Driving) และเครดิตทางกฎหมายที่สูงขึ้น ส่วนรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 27,170 ล้านดอลลาร์ด้วยอัตรากำไร 10.8% และกำไรต่อหุ้น 0.72 ดอลลาร์
Tesla มีการขยายกำลังการผลิตในหลายภูมิภาคทั้งแคลิฟอร์เนีย เซี่ยงไฮ้ เบอร์ลิน เท็กซัส และเนวาดา พร้อมเตรียมผลิต Cybercab รถยนต์ไร้คนขับเชิงพาณิชย์ในปี 2026 ด้วยเป้าหมาย 2 – 4 ล้านคัน คาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 30,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1 ล้านบาท) และวางแผนเปิดให้บริการในเท็กซัสและแคลิฟอร์เนียปี 2025
กองทุนที่ถือหุ้น Tesla ในสัดส่วนที่สูง
- LHINNO-A น้ำหนักประมาณ 11.03%
- SCBINNO(A) และ SCBINNO(SSF) น้ำหนักประมาณ 11.02%
- SCBAUTO(A) และ SCBAUTO(SSF) น้ำหนักประมาณ 9.80%
- ES-AUTOMATION น้ำหนักประมาณ 9.69%
- DAOL-CYBER น้ำหนักประมาณ 9.62%
- KFINNO-A น้ำหนักประมาณ 9.47%
- ES-INTERNET น้ำหนักประมาณ 9.22%
- ES-GINNO-A, ES-GINNO-SSF และ ES-GINNORMF น้ำหนักประมาณ 9.21%
- TNEXTGEN-A, TNEXTGEN-SSF และ TNEXTGENRMF-A น้ำหนักประมาณ 8.82%
- SCBNEXT(A) และ SCBNEXT(SSF) น้ำหนักประมาณ 7.31%
อัปเดตข้อมูลโดย Finnomena Funds และ Bloomberg ณ วันที่ 07/11/2024
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม SSF และ RMF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกองทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FinnomenaPort”