นับตั้งแต่ต้นปี 2024 หุ้นผู้นำรถยนต์ไฟฟ้า Tesla (TSLA) วิ่งลงแรงอย่างต่อเนื่อง ราคาปรับตัวลดลง -32.92% YTD สวนทางหุ้น Magnificent-7 ตัวอื่น ๆ ที่ต่างทะยานเป็นขาขึ้น
โดยเฉพาะล่าสุด ณ วันที่ 3 เมษายน 2024 ราคาหุ้น Tesla ร่วงลงแรง -4.9% ในวันเดียว หลังบริษัทรายงานยอดการผลิตและส่งมอบรถไตรมาส 1 ของปี ทำได้เพียง 386,810 คัน ลดลง -25% QoQ และลดลง -9% YoY
Source: Bloomberg, Company Statements as of 03/04/2024
และที่สำคัญนั้นเป็นยอดขายที่ต่ำกว่าประมาณการที่นักวิเคราะห์คาดไว้มากถึง 14% เลยทีเดียว ซึ่งถือเป็นส่วนต่างสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในข้อมูลย้อนหลังไป 7 ปี
Source: Bloomberg, Company Statements as of 03/04/2024
อย่างไรก็ตาม ข่าวดีในไตรมาสนี้ คือ Tesla สามารถแซง BYD กลับมามียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากฝั่ง BYD มียอดขายอยู่ที่ 300,114 คัน ลดลงถึง 43% จากไตรมาสก่อนหน้า
แต่หากมองอีกมุม ตัวเลขดังกล่าวกำลังสะท้อนว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเผชิญความท้าทาย ท่ามกลางสงคราม Price War ของผู่เล่นรายเดิม และการแย่งชิงเค้กจากผู้เล่นรายใหม่อย่าง Xiaomi เป็นต้น
Elon Musk รวยลดลง 1.3 ล้านล้านบาท
การร่วงลงของหุ้น Tesla ฉุดความมั่งคั่ง ‘Elon Musk’ หล่นวูบไปกว่า $40 พันล้าน หรือราว 1.3 ล้านล้านบาท
เนื่องจาก Elon Musk เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Tesla ที่สัดส่วนประมาณ 13% คิดเป็นจำนวน 411 ล้านหุ้น
The Real-Time Billionaires โดย Forbes ระบุว่า Elon Musk เป็นมหาเศรษฐีที่มั่งคั่งอันดับ 3 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม $190.2 พันล้าน เป็นรองเพียง Bernard Arnault แห่ง LVMH และ Jeff Bezos แห่ง Amazon เท่านั้น
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- Bloomberg: Tesla Sinks After Warning About ‘Notably Lower’ Growth Rate
- Elon Musk The Real-Time Billionaires by Forbes