กองทุนลดหย่อนภาษี

Highlight


ใครที่กำลังการวางแผนลดหย่อนภาษี พร้อมทั้งมองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว การลงทุนในกองทุน SSF และ RMF ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดภาษีแล้ว ยังมีโอกาสได้เก็บเงินก้อนโตจากการลงทุนระยะยาวอีกด้วย

หากคุณกำลังมองหากองทุนลดหย่อนภาษีพร้อมรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว และมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่คอยบริหารจัดการให้อย่างมีประสิทธิภาพ เราได้คัด 4 กองทุนที่น่าสนใจเป็นพิเศษจาก บลจ.ยูโอบี (UOBAM) ซึ่งมีทั้ง SSF และ RMF ให้เลือกลงทุนตามความต้องการและเป้าหมายทางการเงิน

ที่สำคัญยังเป็น 4 กองทุนลดหย่อนภาษีจาก UOBAM ที่ Finnomena Funds แนะนำในปี 2024 ด้วย มีอะไรบ้าง มาดูกัน

1. กองทุนรวมตราสารหนี้โลก UGIS-SSF และ UGISRMF

คือ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (UGIS-SSF) และกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการเลี้ยงชีพ (UGISRMF) เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 5 เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง โดยทั้งสองกองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ PIMCO GIS Income Fund (Class I) (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักมีการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก

กองทุนหลักจัดตั้งและบริหารจัดการโดย PIMCO Global Advisor (Ireland) Limited บลจ. ระดับโลก ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านการลงทุนในตราสารหนี้โดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการตราสารหนี้มายาวนานเกือบ 30 ปี นับตั้งแต่ปี 1997 (Source: Vision-Net, as of 4/10/2024)

กองทุนหลักมีกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก (Active) มีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนเป็นกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอ พร้อมกับสร้างการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว ผ่านการลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทั่วโลก

รายละเอียดอื่น ๆ ของกองทุน (ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/8/2024)

  • เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้กลุ่ม Global Bond Discretionary ประเภท Feeder Fund ที่เน้นลงทุนแบบมีความเสี่ยงต่างประเทศ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (SSF) และหน่วยลงทุนชนิดเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
  • นโยบายการจ่ายเงินปันผล: ไม่มีการจ่ายเงินปันผล
  • มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 %
  • มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อ: ไม่กำหนด
  • มูลค่าขั้นต่ำในการขายคืน: ไม่กําหนด
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee): ยกเว้น
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee): ยกเว้น
  • ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนเข้า (Switching-in): ยกเว้น
  • ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนออก (Switching-out): 2% สำหรับกองทุน UGIS-SSF และ 25% สำหรับกองทุน UGISRMF
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee): 0.8025% ต่อปี

จุดเด่นกองทุนหลัก

  1. กระจายลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก เข้าถึงโอกาสการลงทุนจากตราสารหนี้ที่หลากหลาย เพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนกว่าการลงทุนในตราสารหนี้เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะการลงทุนในตราสารหนี้เพียงประเทศเดียวหรือภูมิภาคเดียว อาจมีความเสี่ยงสูงจากปัจจัยเฉพาะของประเทศนั้น ๆ เช่น ปัญหาทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงนโยบาย หรือความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนการกระจายการลงทุนไปยังหลายประเทศจะช่วยลดผลกระทบจากความเสี่ยงเหล่านี้
  2. นโยบายการบริหารจัดการแบบ Active Management ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และสามารถเลือกซื้อตราสารหนี้ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมีโอกาสผิดนัดชำระหนีต่ำ
  3. มีโอกาสสร้างผลดำเนินงานที่สม่ำเสมอ เนื่องจาก PIMCO มีชื่อเสียงในด้านการบริหารจัดการกองทุนตราสารหนี้มายาวนานเกือบ 30 ปี (Source: Vision-Net, as of 4/10/2024) และมีการกระจายการลงทุนไปในตราสารหนี้ทั่วโลก ช่วยลดความเสี่ยงในสภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวน

 

กองทุนรวมตราสารหนี้โลก

กองทุนหลักมี Portfolio duration อยู่ที่ 3.24 ต่อปี | Source: PIMCO, as of 30/9/2024

กองทุนรวมตราสารหนี้โลก UGIS-SSF และ UGISRMF เหมาะกับใคร

  1. ผู้ลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก และยอมรับผลตอบแทนที่อาจต่ำกว่าหุ้นได้
  2. ผู้ลงทุนที่มุ่งหวังผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ในระดับสูง โดยผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับส่วนใหญ่มาจากกําไรส่วนต่างของราคาหน่วยลงทุน

ทำไม Finnomena Funds แนะนำกองทุน UGIS-SSF และ UGISRMF

กองทุนหลักเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้โลกที่มีจุดเด่นในเรื่องการบริหารการลงทุนแบบเชิงรุก เพื่อสร้างผลตอบแทนเป็นรายได้ที่สม่ำเสมอ และมีการปรับสัดส่วนที่ยืดหยุ่นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน ด้วยการบริหารจัดการกองทุนโดย PIMCO Global Advisor (Ireland) Limited เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงด้านกองทุนตราสารหนี้มาอย่างยาวนาน

PIMCO GIS Income Fund (Class I)

 ผลตอบแทนย้อนหลังของ PIMCO GIS Income Fund (Class I) (กองทุนหลัก)  | Source: PIMCO as of 30/9/2024

*คำเตือน ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

จะเห็นว่าผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund (Class I) นั้นอยู่ในระดับที่เหนือกว่าดัชนีชี้วัด นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2012 จนถึงปัจจุบันในปี 2024


2. กองทุนรวมผสม UGBF-SSF และ UGBFRMF

คือ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล บาลานซ์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (UGBF-SSF) และกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล บาลานซ์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการเลี้ยงชีพ (UGBFRMF) เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 5 เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง โดยทั้งสองกองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ JPMorgan Investment Funds – Global Balanced Fund class: JPM Global Balanced C (acc) – USD (hedged) (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักมีการกระจายการลงทุนให้ตราสารทุนและตราสารหนี้ของบริษัททั่วโลก

กองทุนหลักจัดตั้งและบริหารจัดการโดย J.P. Morgan Asset Management ผู้จัดการกองทุนระดับโลกที่มีประสบการณ์มายาวนาน นับตั้งแต่ปี 1935 (Source: PitchBook, as of 7/10/24)

กองทุนหลักมีกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก (Active) มีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ผ่านการลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้ของบริษัททั่วโลก รวมไปถึงตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล หรือได้รับการรับประกันโดยรัฐบาล หรือรัฐวิสาหกิจ และอาจมีการใช้ตราสารอนุพันธ์ตามความเหมาะสม

รายละเอียดอื่น ๆ ของกองทุน (ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/8/2024)

  • เป็นกองทุนรวมผสมกลุ่ม Foreign Investment Allocation ประเภท Feeder Fund ที่เน้นลงทุนแบบมีความเสี่ยงต่างประเทศ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (SSF) และหน่วยลงทุนชนิดเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
  • นโยบายการจ่ายเงินปันผล: ไม่มีการจ่ายเงินปันผล
  • มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อ: ไม่กำหนด
  • มูลค่าขั้นต่ำในการขายคืน: ไม่กำหนด
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee): ยกเว้น
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee): ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนเข้า (Switching-in): ยกเว้น
  • ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนออก (Switching-out): 2% สำหรับกองทุน UGBF-SSF และ 25% สำหรับกองทุน UGBFRMF
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee): 0.749% ต่อปี

จุดเด่นกองทุนหลัก

  1. Asset Allocation ใช้กลยุทธ์การจัดสรรสินทรัพย์แบบกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดทั่วโลก โดยแบ่งการลงทุนระหว่างหุ้นและตราสารหนี้ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในตลาดใดตลาดหนึ่ง และมีการบริหารแบบ Active สามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนเพื่อตอบสนองต่อสภาวะตลาดและโอกาสการลงทุนที่เปลี่ยนแปลง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีอ้างอิง
  2. Bottom-up Expertise กองทุนใช้วิธีการวิเคราะห์แบบ Bottom-up ซึ่งเน้นการคัดเลือกหลักทรัพย์รายตัว ทั้งในส่วนของหุ้นและตราสารหนี้ ทีมผู้จัดการกองทุนจะทำการวิเคราะห์เชิงลึกในแต่ละบริษัทหรือผู้ออกตราสาร โดยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ฐานะการเงิน การบริหารจัดการ โมเดลธุรกิจ และแนวโน้มอุตสาหกรรม เพื่อค้นหาโอกาสการลงทุนที่มีศักยภาพสูงสุด วิธีนี้ช่วยให้สามารถสร้างพอร์ตการลงทุนที่แข็งแกร่งและมีคุณภาพ
  3. Balanced Risk การบริหารความเสี่ยงเป็นส่วนสำคัญในการจัดการกองทุน โดยกองทุนจะมีการบริหารความเสี่ยง เช่น การกระจายการลงทุน การวิเคราะห์ความผันผวน และการใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) เมื่อจำเป็น เป้าหมายคือการสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีความสมดุล สามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ดี และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยง

 

ปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจ

กองทุนหลักมีการปรับสัดส่วนพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา | Source: J.P. Morgan Asset Management, as of 31/7/2024

กองทุนรวมผสม UGBF-SSF และ UGBFRMF เหมาะกับใคร

  1. ผู้ลงทุนที่มุ่งหวังผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ในระดับปานกลางค่อนข้างสูง
  2. ผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน ซึ่งอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้
  3. ผู้ที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยคาดหวังโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป

ทำไม Finnomena Funds แนะนำกองทุน UGBF-SSF และ UGBFRMF

กองทุน UGBF-SSF และ UGBFRMF ลงทุนในกองทุนหลักคือ JPMorgan Investment Funds – Global Balanced Fund class: JPM Global Balanced C (acc) – USD (hedged) ซึ่งบริหารจัดการโดย J.P. Morgan Asset Management ผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์มายาวนาน นับตั้งแต่ปี 1935 (Source: PitchBook, as of 7/10/24)

กองทุนหลักเป็นกองทุนรวมแบบผสมที่มีจุดเด่นในเรื่องการบริหารการลงทุนแบบเชิงรุก มีการปรับสัดส่วนที่ยืดหยุ่นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน ด้วยการบริหารจัดการกองทุนโดย J.P. Morgan Asset Management เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน

นอกจากนี้กองทุนยังเน้นไปที่การจัดพอร์ตประเภท 50/50 (หุ้นทั่วโลก 50% และตราสารหนี้ทั่วโลก 50%) ทำให้พอร์ตการลงทุนมีความแข็งแกร่ง

JPM Global Balanced C (acc) - USD (hedged)

ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนหลัก | Source: J.P. Morgan Asset Management, as of 30/9/24
*คำเตือน ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

จะเห็นว่าผลการดำเนินงานย้อนหลัง 5 ปีของกองทุนหลัก JPMorgan Investment Funds – Global Balanced Fund class: JPM Global Balanced C (acc) – USD (hedged) นั้นอยู่ในระดับใกล้เคียงกับดัชนีชี้วัดนับตั้งแต่ในปี 2019 จนถึงปัจจุบันในปี 2024

4 กองทุน 4 เป้าหมาย ตอบโจทย์การลงทุน

Finnomena Funds ได้คัดสรรกองทุนที่มีศักยภาพและตอบโจทย์นักลงทุนหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเราแนะนำ 4 กองทุนที่น่าสนใจ ได้แก่ 1.) UGIS-SSF 2.) UGISRMF 3.) UGBF-SSF และ 4.) UGBFRMF โดยแต่ละกองก็จะตอบโจทย์เป้าหมายการลงทุนที่แตกต่างกัน ดังนี้

กองทุนรวมตราสารหนี้โลก UGIS-SSF และ UGISRMF เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีควบคู่ไปกับการเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก แต่ไม่ชอบความผันผวนรุนแรง และยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางค่อนข้างสูง เนื่องจากกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสาร Non-investment Grade / Unrated 20 – 60% ของ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนหลักมีการกระจายการลงทุนให้ตราสารทุนและตราสารหนี้ของบริษัททั่วโลก  (Source: UGIS-SSF และ UGISRMF Factsheet, data as of 30/8/2024)

ส่วนใครที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้น สามารถรับความผันผวนได้ และยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางค่อนข้างสูง ก็สามารถลงทุนในกองทุนรวมผสม UGBF-SSF และ UGBFRMF ได้เช่นกัน เนื่องจาก 2 กองทุนนี้มีการลงทุนในหุ้นที่สัดส่วน 58% ของพอร์ต ทำให้กองทุนรวมผสม UGBF-SSF และ UGBFRMF มีโอกาสผันผวนมากกว่ากองทุนรวมตราสารหนี้โลก UGIS-SSF และ UGISRMF

ในด้านของการวางแผนภาษี กองทุน UGIS-SSF และ UGBF-SSF เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งลดหย่อนภาษี และเปิดโอกาสการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว (ขั้นต่ำ 10 ปี) เช่น ซื้อบ้าน สร้างทุนศึกษาให้ลูกหลาน หรือสร้างฐานะทางการเงิน

ขณะที่ UGISRMF และ UGBFRMF มีเงื่อนไขการลงทุนที่เข้มงวดกว่า เหมาะสำหรับการวางแผนเกษียณโดยเฉพาะ และยังให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงกว่า (RMF สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี และ SSF สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี)

Finnomena Funds คัดเลือกกองทุนอย่างไร

การคัดสรร กอง UGIS-SSF, UGISRMF, UGBF-SSF และ UGBFRMF มานั้น จะทำโดยการวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Screening) เราพิจารณาผลการดำเนินงานย้อนหลังระยะยาว แม้ว่าผลตอบแทนในอดีตจะไม่ได้การันตีผลตอบแทนในอนาคต แต่ผลการดำเนินงานย้อนหลังในระยะยาวเป็นข้อพิสูจน์ความสามารถในการบริหารจัดการของผู้จัดการกองทุนผ่านวัฏจักรเศรษฐกิจต่าง ๆ

รวมถึงการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (Qualitative Screening) โดยเราพิจารณาเรื่องของปรัชญาการลงทุน และกระบวนการการลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่ากองทุนนั้นมีกลยุทธ์การลงทุนที่ชัดเจน และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว


อ้างอิง: UGIS-SSF Factsheet, UGISRMF Factsheet, UGBF-SSF Factsheet, UGBFRMF Factsheet, PIMCO, J.P. Morgan Asset Management

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสียง ก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก | กองทุน UGIS-SSF, UGISRMF มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน | กองทุน UGBF-SSF และ UGBFRMF มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต| ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

TSF2024