กระแสความสนใจในตัว “กมลา แฮร์ริส” (Kamala Harris) เพิ่มขึ้นมาทันที หลังเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2024 “โจ ไบเดน” เขียนจดหมายถอนตัวอย่างเป็นทางการจากการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2024
หลังจากก่อนหน้านี้ โจ ไบเดน ถูกตั้งคำถามมากมายถึงความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งสมัยที่ 2 ไม่ว่าจะด้วยผลงานดีเบตที่เพลี่ยงพล้ำให้แก่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในรอบแรกเมื่อช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมา ตลอดจนปัญหาสุขภาพ และความแก่ชราของไบเดนในวัย 81 ปีที่แสดงออกมาชัดเจน
พรรคเดโมแครต จึงตัดสินใจเปลี่ยนม้ากลางศึก เพื่อไม่ให้คะแนนนิยมตกต่ำไปมากกว่านี้ ซึ่งว่ากันว่าผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนในครั้งนี้ก็คือ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันนั่นเอง
ไบเดน โพสผ่าน X ส่วนตัวว่า การถอนตัวครั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดต่อพรรคและประเทศชาติ พร้อมหนุนให้ แฮร์ริส เป็นผู้รับไม้ต่อในสู้ศึกเลือกตั้ง
Source: X@JoeBiden as of 22/07/2024
เปิดประวัติ กมลา แฮร์ริส (Kamala Harris)
Source: X@KamalaHarrisas of 11/01/2023
กมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) หญิงแกร่งวัย 59 ปี ผู้พลิกหน้าประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกา ด้วยการเป็นผู้หญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2021
เธอเกิดที่รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีคุณพ่อเป็นนักเศรษฐศาสตร์ผิวสีชาวจาไมกา และคุณแม่เป็นนักวิจัยโรคมะเร็งชื้อสายอินเดีย ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้อพยพเข้ามาอยู่ในสหรัฐฯ
พ่อแม่ของ กมลา แฮร์ริส พบรักเมื่อตอนเรียนมหาวิทยาลัย ในช่วงที่มีขบวนการนักศึกษายุค 60’s จึงพูดได้ว่าเธอเป็นหนึ่งทั้งผลผลิตของขบวนการนักศึกษายุครุ่งเรือง และเป็นลูกครึ่งจากผู้อพยพสองทวีปที่ไม่ใช่คนผิวขาว
สู่เส้นทางอาชีพการเมือง
กมลา แฮร์ริส เรียนจบปริญญาตรีด้านรัฐศาสตร์จาก Howard University ซึ่งเป็นสถาบันที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของคนผิวสี และที่นั่นทำให้เธอได้มีโอกาสทำกิจกรรมทางการเมืองต่าง ๆ เช่น ประเด็นการแบ่งแยกผิวสีในแอฟริกาใต้ หลังจากนั้นจึงได้เรียนต่อด้านกฎหมายจาก University of California, Hastings
เธอเริ่มต้นเส้นทางอาชีพทนายความ ในช่วงปี 1990 และเติบโตอย่างก้าวกระโดด ก่อนที่จะตัดสินใจลงเล่นการเมืองด้วยการชนะเลือกตั้งอัยการประจำเขตซานฟรานซิสโกปี 2003 และได้รับเลือกเป็นอัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 2010
เวลานั้นชื่อของเธอถือเป็นนักเมืองหญิงดาวรุ่งของพรรคเดโมแครต เพราะถูกจับตาทั้งในแง่ของภูมิหลัง รวมทั้งมีผลงานโดดเด่นในการปกป้องชาวแคลิฟอร์เนีย ไม่ให้โดนยึดบ้านจากผลพวงของ Subprime Crisis 2008
กระทั่งปี 2016 จึงได้มีโอกาสเข้าสู่สนามเลือกตั้งในตำแหน่งวุฒิสมาชิก และเมื่อปี 2021 ก็ได้บันทึกหน้าประวัติศาสตร์ ‘Madame Vice President’ ครั้งแรกของสหรัฐฯ
ฉันอาจจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่นั่งในตำแหน่งนี้ แต่จะไม่ใช่คนสุดท้ายแน่นอน
– สุนทรพจน์แรกของ กมลา แฮร์ริส หลังประกาศชัยชนะของพรรคเดโมแครต เมื่อ 4 ปีก่อน –
บทบาทในฐานะรองประธานาธิบดี
Source: X@KamalaHarrisas of 19/06/2024
กมลา แฮร์ริส มีชื่อเสียงจากการเดินทางไปทั่วสหรัฐฯ เพื่อแสดงถึงจุดยืนในการปกป้องสิทธิสตรีและสิทธิการทำแท้งเสรี หลังศาลสูงสุดได้ยกเลิกคำพิพากษาคดี Roe v Wade ว่าการทำแท้งขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ทว่าคะแนนความนิยมของเธอในภาพรวม ถูกตัดเกรดในระดับต่ำมาโดยตลอด ตามการสำรวจความคิดเห็นของ FiveThirtyEight มีคนอเมริกันถึง 51% ที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของเธอ
นักวิเคราะห์มองว่าหน้าที่ของ กมลา แฮร์ริส ในฐานะรองประธานาธิบดี เป็นไปตามแบบแผนทั่วไปและไร้ความโดดเด่น โดยมีภารกิจหลักคือการลดจำนวนผู้อพยพข้ามพรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯ และมองว่าเธอค่อนข้างล้มเหลวในการแก้ปัญหานี้
คะแนนความนิยม Harris vs. Trump
โพลล่าสุดจาก DDHQ and The Hill ระบุว่า คะแนนนิยมของ “กมลา แฮร์ริส” ตามหลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” อยู่ที่ 45.4% ต่อ 47.4% และชี้ว่าเธอมีแนวโน้มที่จะเอาชนะได้มากกว่าปล่อยให้ “โจ ไบเดน” ฝืนลงแข่งต่อไป
อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ CNN เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า แฮร์ริสเอาชนะง่ายกว่าไบเดน และไม่มีความกังวลเลยที่จะต้องเจอกับเธอ