สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม หลังจากที่ลิเบียประกาศระงับการผลิตน้ำมัน ซึ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันที่อาจเกิดขึ้นต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก โดยในขณะเดียวกันยังมีความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนตุลาคมปิดที่ 77.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.59 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมปิดที่ 81.43 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.41 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.05%
รายงานระบุว่า รัฐบาลลิเบียฝั่งตะวันออกในเมืองเบนกาซีได้ประกาศระงับการผลิตและส่งออกน้ำมันจากทุกแหล่งขุดเจาะเมื่อวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม หลังจากเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลลิเบียในกรุงตริโปลี เกี่ยวกับการควบคุมธนาคารกลางของประเทศ
ในขณะที่บริษัท National Oil Corp (NOC) ซึ่งควบคุมแหล่งน้ำมันของลิเบียยังไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม บริษัท Waha Oil Company ซึ่งเป็นบริษัทในเครือได้กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงและเตือนถึงความเป็นไปได้ที่การผลิตน้ำมันของลิเบียอาจหยุดชะงักเนื่องจากการประท้วงและแรงกดดันหลายด้าน
บริษัท Sirte Oil Company ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทลูกของ NOC กล่าวว่า จะเริ่มปรับลดกำลังการผลิตบางส่วน ข้อมูลจากโอเปกระบุว่า ปัจจุบันกำลังการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียอยู่ที่ 1.18 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคม
Giovanni Staunovo นักวิเคราะห์จากธนาคาร UBS กล่าวว่า “ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดต่อตลาดน้ำมันคือ อาจมีการลดลงของกำลังการผลิตน้ำมันของลิเบียเพิ่มขึ้นเนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองในประเทศ ซึ่งมีความเสี่ยงที่การผลิตน้ำมันจะลดลงจากระดับปัจจุบันที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นศูนย์”
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตามองความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากที่อิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนเปิดฉากโจมตีกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม โดยมีรายงานว่าอิสราเอลได้ทำการโจมตีเชิงป้องกันก่อน (Pre-Emptive Strike) ขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังคงประเมินความเสี่ยงจากการโจมตีของอิหร่านและกลุ่มตัวแทนต่อตัวอิสราเอล
นอกจากนี้ การเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซาที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ยังไม่มีความคืบหน้า โดยทั้งอิสราเอลและฮามาสยังไม่ยอมรับข้อตกลงใด ๆ
ที่มา: https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=M1dQVHFiYlZwSlE9
กองทุนหุ้นพลังงานแนะนำโดย Finnomena Funds
- Mr.Messenger Call แนะนำ “KT-ENERGY” กองทุนหุ้นพลังงานโลก ลงทุนใน BGF World Energy Fund เป็นกองทุนหลัก
- กองทุนหลักลงทุนในหุ้นของบริษัทชั้นนําทั่วโลกซึ่งมีธุรกิจหลักในการสํารวจพัฒนาและจัดจําหน่ายพลังงาน
- ตัวอย่างหุ้นที่กองทุน KT-ENERGY ลงทุน ได้แก่ Shell, Exxon Mobil และ Chevron (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 2567)
- ดูรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/KT-ENERGY
📌 อ่านคำแนะนำ Mr.Messenger Call เพิ่มเติมhttps://www.finnomena.com/opportunity-hub/investment-call/mr-messenger/energy-jul-2024
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FinnomenaPort”