Meta Platforms (META) เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง Facebook, Instagram และ WhatsApp ได้เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุดออกมาแข็งแกร่งและสูงกว่าคาด โดยกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
บริษัทมีรายได้รวม 40,590 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าคาดไว้ที่ 40,290 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 6.03 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งดีกว่าคาดที่ 5.25 ดอลลาร์สหรัฐ
ยอดขายในไตรมาส 3 เติบโต 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 35% แตะ 15,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 11,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อน อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2023
ผลประกอบการไตรมาส 3/2024 ของ Meta | Source: App Economy Insights
ด้านจำนวนผู้ใช้งานรายวัน (Daily Active People) อยู่ที่ 3,290 ล้านคน แม้จะเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน แต่ต่ำกว่าคาดที่ 3,310 ล้านคน ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงหลังตลาดปิด
จุดที่น่าสนใจคือ Meta ได้ปรับเพิ่มงบลงทุนสำหรับปี 2024 เป็น 38,000 – 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 37,000 – 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่างบลงทุนจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2025 เนื่องจากการเร่งลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI
Mark Zuckerberg CEO ของ Meta กล่าวในการประชุมนักวิเคราะห์ว่า
การลงทุนด้าน AI ของเราต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และผมคาดว่าจะยังคงลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในด้านนี้ต่อไป
โดยปัจจุบันมีผู้โฆษณากว่า 1,000 รายที่ใช้เครื่องมือโฆษณา AI แบบ Generative ของ Meta
สำหรับรายได้หลักของ Meta ยังคงมาจากธุรกิจโฆษณา โดยในไตรมาส 3/2024 รายได้จากการโฆษณาอยู่ที่ 39,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.7% จากปีก่อน คิดเป็น 98.3% ของรายได้รวมทั้งหมด
แม้ว่ารายได้ของ Meta จะเพิ่มขึ้น แต่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกลับโตช้าลง เพราะผู้โฆษณาจากจีนลดการใช้บริการ ทำให้นักลงทุนมีความกังวลว่าร้านค้าออนไลน์จากจีน เช่น Temu และ Shein จะลดการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Meta ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้โดยรวมของบริษัท
นอกจากนี้ การที่ Meta ส่งสัญญาณว่าจะเร่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างมีนัยสำคัญในปี 2024 ก็เป็นอีกปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน เนื่องจากการลงทุนจำนวนมากอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรในระยะสั้น
แม้จะมีความกังวลเหล่านี้ แต่ Meta ก็ยังคงมองโลกในแง่ดีต่อแนวโน้มการเติบโตในอนาคต โดยบริษัทได้คาดการณ์รายได้ในไตรมาสที่ 4/2024 อยู่ที่ 45,000 – 48,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าคาดที่ 46,300 ล้านดอลลาร์
ด้านธุรกิจ Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านฮาร์ดแวร์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) และความเป็นจริงเสริม (AR) ยังคงขาดทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3/2024 ขาดทุนไป 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าต่ำกว่าคาดที่ 4,680 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ Reality Labs มียอดขายเพิ่มขึ้น 29% เป็น 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังต่ำกว่าคาดที่ 310.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยหากนับตั้งแต่ปี 2020 Reality Labs มีผลขาดทุนสะสมมากกว่า 58,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
กองทุนหุ้น Blue Chip แนะนำโดย Finnomena Funds
Finnomena Funds แนะนำกองทุน ES-USBLUECHIP กองทุนหุ้นขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา โดยเน้นคัดเลือกบริษัทที่เติบโตทั้งรายได้ กำไร และกระแสเงินสด ตลอดจนมีความสามารถทางการแข่งขันสูง อีกทั้งยังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตามคำแนะนำ Mr.Messenger Call
ES-USBLUECHIP เป็นกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ชั้นดีระดับโลก ที่คัดเลือกหุ้นด้วยวิธี Bottom-Up รวมเอาหุ้นชั้นนำที่เป็นพิมพ์นิยมของนักลงทุนมาไว้ด้วยกัน และให้ความสำคัญกับการถือครองระยะยาว ปัจจุบัน ES-USBLUECHIP มีสัดส่วนการถือหุ้น META อยู่ประมาณ 4.64% (ข้อมูล ณ วันที่ 31/10/24)
อ้างอิง: CNBC, Financial Times
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299