หลังจากที่หุ้นกลุ่ม ‘7 นางฟ้า’ หรือ Magnificent 7 สร้างผลตอบแทนอันน่าทึ่งให้กับนักลงทุนมาโดยตลอด ล่าสุดมีสัญญาณที่น่าจับตามองเกี่ยวกับอัตราการเติบโตของกำไร (EPS Growth) ที่อาจเริ่มชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ภาพรวมของดัชนี S&P 500 กลับมีแนวโน้มดูดีขึ้น
ช่องว่างระหว่าง Magnificent 7 และ S&P 500 กำลังแคบลง
EPS Growth ของกลุ่ม Magnificent 7 เทียบกับ S&P500 | Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 21/10/2024
ในไตรมาสแรกของปี 2024 กลุ่ม Magnificent 7 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันโดดเด่นด้วย EPS Growth ที่เติบโตสูงถึง 78% ขณะที่ดัชนี S&P500 มี EPS Growth ติดลบที่ -1%
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปในไตรมาส 2/2024 เมื่อ EPS Growth ของ S&P500 พลิกกลับมาเติบโตที่ 8% แม้ว่ากลุ่ม Magnificent 7 จะยังคงรักษาการเติบโตไว้ได้ที่ 52% แต่ช่องว่างระหว่างผลการดำเนินงานของทั้งสองกลุ่มเริ่มแคบลงอย่างเห็นได้ชัด
ที่น่าสนใจคือคาดการณ์สำหรับช่วงไตรมาส 4/2024 และทั้งปี 2025 บ่งชี้ว่าช่องว่างของ EPS Growth ระหว่างสองกลุ่มนี้จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยในไตรมาส 3/2024 คาดว่ากลุ่ม Magnificent 7 จะเติบโตที่ 25% ขณะที่ S&P500 จะเติบโต 7%
ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/2024 คาดว่า S&P500 จะมีอัตราการเติบโตสูงถึง 22% แซงหน้ากลุ่ม Magnificent 7 ที่คาดว่าจะเติบโตเพียง 13% และแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2025 ซึ่งคาดว่าทั้งสองกลุ่มจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกันที่ประมาณ 21-22%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมยังคงแข็งแกร่ง
ผลประกอบการของตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P 500) เทียบกับตลาดหุ้นยุโรป (STOXX 600) | Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 21/10/2024
ข้อมูลล่าสุดยิ่งตอกย้ำแนวโน้มการกระจายตัวของการเติบโตในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจากตัวเลข Earnings Surprise ของ S&P 500 พบว่าแนวโน้มที่น่าสนใจ โดยในไตรมาส 1/2024 อยู่ที่ระดับ 9.0% แม้จะปรับตัวลงมาที่ 4.0% ในไตรมาส 2/2024 แต่ก็สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ที่ 6.2% ในไตรมาส 3/2024 สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ โดยรวมยังคงสามารถทำผลประกอบการได้ดีกว่าคาด
โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับตลาดยุโรปที่ส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างชัดเจน โดย Earnings Surprise ของดัชนี STOXX 600 ลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 7.6% ในไตรมาส 1/2024 เหลือ 3.7% ในไตรมาส 2/2024 และล่าสุดพลิกเป็นติดลบที่ -0.2% ในไตรมาส 3/2024
กระจายการเติบโต ก้าวข้าม Magnificent 7
เปรียบเทียบผลประกอบการของภาคส่วนต่าง ๆ | Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 21/10/2024
นอกจากนี้ การเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังกระจายตัวไปในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่ม Financials ที่มี Earnings Surprise สูงถึง 10.4% ขณะที่หลายกลุ่มอุตสาหกรรมมีสัดส่วน Positive Surprise ในด้านยอดขาย (Sales) กระจายตัวเช่นกัน
ยิ่งตอกย้ำว่าตลาดหุ้นโดยรวมของสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวขึ้นด้วยพื้นฐานที่แข็งแรง ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนมุมมองว่าการเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะกระจายตัวไปยังหุ้นอื่น ๆ ในดัชนี S&P 500 มากกว่าจะกระจุกตัวอยู่ในกลุ่ม Magnificent 7 เหมือนที่ผ่านมา
สถานการณ์แบบนี้ระยะยาวลงทุนอะไรดี?
ท่ามกลางกระแสความนิยมในหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ Finnomena Funds แนะนำกองทุนหุ้นเทคโนโลยี B-INNOTECH ที่เน้นบริษัทพื้นฐานดีทั่วโลก กระแสเงินสดแข็งแกร่ง และราคาไม่แพง รวมทั้งยังทนทานต่อความผันผวนในระยะสั้นได้ดีตามคำแนะนำ FundTalk Contrarian Call และ MEVT Call
B-INNOTECH เป็นกองทุนหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกแบบ Active จาก Fidelity Funds ที่โดดเด่นด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่าง ด้วยสัดส่วนการลงทุนในปัจจุบันที่มีหุ้นกลุ่ม Magnificent 7 เพียง 16% ซึ่งต่ำกว่าดัชนี S&P 500 ที่มีน้ำหนักมากถึง 33% สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการค้นหาโอกาสการลงทุนสาย Value Growth ที่ยังคงค้นหาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีโอกาสเติบโตสูง แต่หลีกเลี่ยงหุ้นใหญ่พิมพ์นิยมที่อาจเต็มมูลค่าแล้ว
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299