หลายคนมีคำถามเข้ามาว่าตลาดผันผวนแบบนี้ควรจัดพอร์ตอย่างไร? สำหรับคำถามนี้ Jet – The Contrarian Investor มีไอเดียหลักคือ
เงินในโลกอยู่ตรงไหน จัดพอร์ตไปตรงนั้น
พูดง่าย ๆ คือกระจายให้ใกล้เคียงสัดส่วน Market Cap. ของหุ้นแต่ละประเทศในโลก หลักการคือสิ่งที่เรียกว่า Black-Litterman model ที่พัฒนาโดย Fischer Black และ Robert Litterman จาก Goldman Sachs
สัดส่วนหุ้นโลกตอนนี้เป็นอย่างไร?
ปัจจุบัน สัดส่วน Market Cap. ของหุ้นในโลกกระจายดังนี้
- หุ้นประเทศพัฒนาแล้ว (DM) ราว 75% (แบ่งเป็น US 45%, ยุโรป 15% ญี่ปุ่น 5% และอื่น ๆ 10%)
- หุ้นประเทศกำลังพัฒนา (EM) ราว 25% (แบ่งเป็น จีน 15% และอื่น ๆ 10%)
และเมื่อเทียบหุ้นทั้งหมดกับตราสารหนี้แล้ว สัดส่วนจะอยู่ที่ 45% ต่อ 55%
ตัวอย่างการจัดพอร์ต
อันที่จริงเราไม่จำเป็นต้องยึดตัวเลขข้างต้นเป๊ะ ๆ แต่ปรับได้ตามสถานการณ์ เช่น
- หุ้น US 55% (แบ่งเป็น KFUS-A 30%, AFMOAT-HA 15% MEGA10-A 10%)
- หุ้นยุโรป 20% (ONE-EUROEQ)
- ตราสารหนี้โลก 25% (KFSINCFX-A)
โดยปัจจุบันเศรษฐกิจเข้าสู่เงินเฟ้อขาลง จึงอาจ overweight หุ้นที่ 75% และ ตราสารหนี้ 25%
เงินเฟ้อขาลงและการสิ้นสุดดอกเบี้ยขาขึ้นเพิ่มโอกาสในหุ้น Growth ขนาดกลางของ US ที่ยังปรับตัวขึ้นไปไม่เท่าหุ้นใหญ่ จึงมีการลงทุนผ่าน KFUS-A และ AFMOAT-HA และลงทุนหุ้นยุโรปผ่าน ONE-EUROEQ ด้วยปัจจัยบวกเดียวกัน โดยยังคงสัดส่วนหุ้น US ตัวใหญ่บางส่วนเอาไว้ผ่าน MEGA10-A
ทั้งนี้ มีการ underweight หุ้น EM จากสถานการณ์ที่เงินดอลลาร์แข็งค่าทำให้เงินย้อนกลับไปยัง DM
สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/
คำเตือน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”