สำนักข่าว CNN รายงานว่า ผลการสำรวจคะแนนจากการดีเบตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รอบแรก ระหว่างนางคามาลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน พบว่าแฮร์ริสได้รับคะแนนสนับสนุนสูงถึง 63% ขณะที่ทรัมป์ได้ 37% ด้าน The Washington Post ระบุว่าผู้มีสิทธิลงคะแนนในรัฐสมรภูมิส่วนใหญ่เห็นว่าแฮร์ริสทำผลงานได้ดีกว่าในการดีเบตครั้งนี้ ขณะเดียวกัน ยอดผู้ชมการดีเบตในสหรัฐฯ สูงถึง 67 ล้านคน ซึ่งมากกว่าการดีเบตระหว่างทรัมป์และไบเดน
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ลงทะเบียนรับชมการดีเบตที่จัดโดยสำนักข่าว ABC News ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าแฮร์ริสทำผลงานได้ดีกว่าทรัมป์ตามผลสำรวจของ SSRS ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแฮร์ริสทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้
ผู้ชมการดีเบตให้คะแนนแฮร์ริส 63% ต่อทรัมป์ 37% โดย 96% ของผู้สนับสนุนแฮร์ริสกล่าวว่าเธอทำได้ดีกว่า ขณะที่ 69% ของผู้สนับสนุนทรัมป์คิดว่าทรัมป์ทำได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ผู้ชมส่วนใหญ่กล่าวว่าการดีเบตครั้งนี้ไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกประธานาธิบดีของพวกเขา แม้ว่าผู้สนับสนุนทรัมป์มีแนวโน้มที่จะทบทวนการตัดสินใจเลือกผู้นำมากกว่าผู้สนับสนุนแฮร์ริส ผลการสำรวจนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของปฏิกิริยาผู้ชมเมื่อเปรียบเทียบกับการดีเบตในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ในการดีเบตระหว่างทรัมป์และไบเดน ผู้ชมให้คะแนนทรัมป์ทำผลงานได้ดีกว่าไบเดน 67% ต่อ 33% ซึ่งถือเป็นชัยชนะของทรัมป์ในการดีเบตครั้งแรกหลังการดีเบตในปี 2016 และ 2020 ที่ผู้ชมมองว่าฮิลลารี คลินตันทำผลงานได้ดีกว่าทรัมป์ทั้งหมด
สำหรับการดีเบตครั้งแรกของปี 2024 ระหว่างแฮร์ริสและทรัมป์ มีผู้ชมสูงถึง 67.1 ล้านคน ผ่านเครือข่ายโทรทัศน์ 17 แห่งตามข้อมูลของ Nielsen ซึ่งมากกว่าการดีเบตระหว่างไบเดนและทรัมป์ในเดือนมิถุนายนที่มีผู้ชม 51 ล้านคน และเป็นการดีเบตที่มีผู้ชมมากที่สุดในปี 2024 สำหรับรายการที่ไม่ใช่การแข่งขันกีฬา แต่จำนวนผู้ชมยังน้อยกว่าการดีเบตปี 2020 ที่มีผู้ชมมากกว่า 73 ล้านคน และปี 2016 ซึ่งเป็นการดีเบตครั้งแรกระหว่างฮิลลารี คลินตันและทรัมป์ ที่มียอดผู้ชมสูงสุด 84 ล้านคน
ที่มา: https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=FR&id=aUdLekp5VFc0b3M9