Key Takeaway
- เรายังเชื่อว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัว (Disinflation) ในปีนี้ จากเงินเฟ้อกลุ่มหลัก ๆ เช่น ค่าเช่าที่ลดลง
- เงินเฟ้อจากค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่พุ่งแรงในรอบ 47 ปี มองว่าไม่น่ากังวลเพราะคิดเป็น 2.5% ของตะกร้าเงินเฟ้อสหรัฐฯ และเป็นผลจากการปรับค่าเบี้ยประกันหลังเกิดปัญหาค่าแรงพุ่งสูงไปก่อนหน้านี้
- มองว่าธนาคารกลางทั่วโลก (ยกเว้นญี่ปุ่น) จะเริ่มลดดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งหนุนหุ้นเติบโต และตราสารหนี้โลก
ตราสารหนี้โลก
Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 15/01/2024
- กองทุนตราสารหนี้โลก แนะนำ UGIS-N และ KFSINCFX-A ซึ่งลงทุนในกองทุนหลักเดียวกัน คือ PIMCO GIS Income ที่กระจายลงทุนในตราสารหนี้หลายชนิดทั่วโลก ด้วยกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นตามสภาวะตลาดและอัตราดอกเบี้ย
- ความแตกต่างระหว่าง 2 กองนี้ คือ UGIS-N ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (hedge) จึงผันผวนน้อยกว่า เหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ต้องการพักเงินจากกองทุนตลาดเงิน
- ส่วน KFSINCFX ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Unhedge) แน่นอนว่าผันผวนสูงกว่า แต่ดีตรงที่ไม่ต้องเสียค่า Hedging Cost และมีโอกาสทำกำไรเพิ่มขึ้น หากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในอนาคต
- จะเห็นว่าตั้งแต่ปี 2022 เป็นช่วงที่ดอลลาร์แข็ง บาทอ่อน ทำให้กองทุน Unhedge สร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นกว่าชัดเจน ซึ่งปัจจุบัน hedging cost ปรับตัวสูงขึ้นมากถึง 3% และมีแนวโน้มว่าดอลลาร์เริ่มทรงตัว
- การเลือกกองทุนตราสารหนี้โลก Unhedge อย่าง KFSINCFX-A จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์คนที่อยากได้ผลตอบแทบแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย รับความเสี่ยงของค่าเงินได้ และมองว่าดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง
หุ้นเติบโต
Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 15/01/2024
- กองทุนหุ้นเติบโต แนะนำกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Russell 1000 growth ซึ่งจากข้อมูลชี้ว่าจะ Outperform หลังเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย
- ได้แก่ KFUS-A SCBNEXT(A) ASP-USSMALL SCBRS2000(A)
หุ้นยุโรป
Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 15/01/2024
- กองทุนหุ้นยุโรปแนะนำ ONE-EUROEQ ซึ่งลงทุนในกองทุนหลักที่บริหารโดย ELEVA Capital ซึ่งมีความชำนาญในการลงทุนในหุ้นยุโรป
- ONE-EUROEQ เน้นการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว มุ่งไปที่หุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตน่าสนใจในช่วง 3 ถึง 5 ปี โดยที่การเติบโตดังกล่าวยังไม่สะท้อนในราคาซื้อขายหุ้นของบริษัทนั้น
- บริษัทที่กองทุนเข้าไปลงทุนมากที่สุด ได้แก่ Novo Nordisk บริษัท Health Care ที่เป็นผู้นำโลกด้านการผลิตอินซูลินรักษาเบาหวาน
- ยุโรปมีปัจจัยหนุนจากกำลังซื้อและภาคการบริโภคของยุโรปจึงจะฟื้นตัวได้ดีในปี 2024 หลังค่าไฟฟ้ายุโรปปรับลดลงแล้ว
สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/
คำเตือน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ FINNOMENA FUNDS ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในกรอบระยะเวลาตามวัตถุประสงค์การลงทุนที่แตกต่างกันตามคำแนะนำ | บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ |สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”