โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะแจกรอบเดียวเท่านั้นผ่านซูเปอร์แอปฯ ของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่
จำนวนประชาชนที่ได้รับสิทธิจำนวน 50 ล้านคน จะต้องผ่านหลักเกณฑ์ ดังนี้
(1) อายุเกิน 16 ปีขึ้นไป
(2) รายได้พึงประเมินไม่เกิน 840,000 บาทในปีภาษี 2566 ที่ผ่านมา
(3) มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ไม่เกิน 500,000 บาท โดยยอดวงเงินในบัญชีจะกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าจะใช้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567 เป็น cut off date แต่ยืนยันว่าต้องเป็นระยะเวลาที่ผ่านมาแล้วแน่นอน นอกจากนี้ จะไม่คิดรวมมูลค่าสินทรัพย์จากการลงทุนอื่น ๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม สลากออมทรัพย์ ตราสารหนี้ เป็นต้น
สามารถใช้จ่ายได้กับร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่กำหนดเท่านั้น ภายในพื้นที่เขตอำเภอตามที่อยู่ในภูมิลำเนา
ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นร้านค้าที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ และต้องอยู่ในระบบภาษี เช่น ร้านโชห่วย และร้านสะดวกซื้อ ยกตัวอย่างเช่น 7-Eleven ถือว่าเข้าข่ายเข้าร่วมโครงการนี้
สินค้าที่สามารถใช้จ่ายได้คือของอุปโภค-บริโภคทั่วไป โดยจะยกเว้น สินค้าอบายมุข, น้ำมัน, การให้บริการ และการซื้อของออนไลน์ เป็นต้น
เตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนเมษายนนี้ คาดว่าเปิดลงทะเบียนภายในไตรมาส 3 ปี 2567 และเริ่มใช้จ่ายภายในไตรมาส 4 ปี 2567
ใช้วงเงินงบประมาณ 500,000 ล้านบาท มาจาก 3 ทาง
1) งบประมาณรายจ่ายปี 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท
2) งบประมาณรายจ่ายปี 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท
3) เงินอีก 172,300 ล้านบาท จะใช้มาตรการ 28 เพื่อกู้ยืมจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ประเมินว่าวงเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 500,000 ล้านบาท จะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ประมาณ 1.2% – 1.8% ต่อปี