ตามรายงานของสำนักข่าว Reuters แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนได้ออกใบอนุญาตนำเข้าทองคำให้กับธนาคารหลายแห่งในประเทศ หลังจากถูกระงับไปนาน 2 เดือน โดยคาดว่าความต้องการทองคำจะปรับตัวดีขึ้น แม้ราคาทองคำจะเพิ่งทำ All-Time High ก็ตาม

ราคาทองคำโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นถึง 21% นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) และเพิ่งทำสถิติสูงสุดที่ 2,500.99 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

แต่นักวิเคราะห์จาก Citigroup กลับคาดว่า ราคาทองจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ภายในกลางปี 2025 ขณะที่ราคาคาดการณ์เฉลี่ยในไตรมาส 4 อยู่ที่ระดับ 2,550 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

ส่วนหนึ่งมาจากการที่ธนาคารกลางจีนได้เปิดโควต้านำเข้าทองคำให้ธนาคารในประเทศ หลังจากถูกระงับไปนาน 2 เดือน เนื่องจากราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการทองคำแท่งชะลอลง

นักวิเคราะห์ระบุว่า การซื้อทองคำของจีนเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาทองคำในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน และหากความต้องการฟื้นตัว อาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอีก

โดยธนาคารกลางจีนเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2023 ซื้อสุทธิอยู่ที่ 7.23 ล้านออนซ์

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่า แม้จะมีการออกใบอนุญาตแล้ว แต่เนื่องจากส่วนต่างราคาทองคำในประเทศกับต่างประเทศยังต่ำ จึงไม่มีหลักประกันว่า ใบอนุญาตจะถูกนำไปใช้จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น โดยความต้องการทองคำสำหรับเครื่องประดับยังคงอ่อนแอ แต่ความต้องการเพื่อการลงทุนยังคงแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ ข้อมูลจาก World Gold Council (WGC) ยังระบุอีกว่า เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนได้หยุดซื้อทองคำสำรองเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และมีทองคำสำรองอยู่ที่ 72.8 ล้านออนซ์ ณ สิ้นเดือนที่แล้ว 

อีกหนึ่งปัจจัยคือการประชุม Jackson Hole ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed จะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บวกกับหากอัตราดอกเบี้ยลดลง อาจส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงไปด้วย ซึ่งจะช่วยหนุนให้ราคาทองคำที่ซื้อขายเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้น

มุมมองการลงทุน Finnomena Funds

  • จะเห็นว่าปัจจัยดังกล่าวหนุนให้แนวโน้มราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบัน Finnomena Funds แนะนำทยอยสะสมทองคำผ่านกองทุน KT-GOLDUH-A สำหรับผู้ที่มีเป้าหมายการลงทุนระยะยาว (6-12 เดือน) ตามคำแนะนำ MEVT Call
  • KT-GOLDUH-A ไม่มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน จึงมีความเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาทองคำโลก (God Spot) และไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการขาย

อ่านคำแนะนำ MEVT Call เพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/opportunity-hub/investment-call/mevt

  • ส่วนมุมองมองการลงทุนแบบเก็งกำไรระยะสั้น Mr.Messenger Call แนะนำกองทุน UOBSC ซึ่งลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โลก 
  • โดยสัดส่วนการลงทุนของ UOBSC ถือโลหะที่มีค่า (Precious Metal) กว่า 26.50% จึงเชื่อว่าจะได้รับโมเมมตัมเชิงจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่มีทิศทางอ่อนค่า ทำให้ส่งผลดีต่อทั้งราคาทองคำและน้ำมันดิบด้วย

อ่านคำแนะนำ Mr.Messenger Call เพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/opportunity-hub/investment-call/mr-messenger


ที่มา: Reuters, Infoquest, กรุงเทพธุรกิจ

คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 . ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FinnomenaPort”| สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299