ASML เป็นอะไร ทำไมร่วงแรงที่สุดในรอบ 26 ปี

ASML Holding NV (ASML) บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรผลิตชิปชั้นนำระดับโลก กำลังประสบปัญหาอย่างหนักเมื่อผลประกอบการไตรมาสล่าสุดออกมาไม่เป็นไปตามคาด โดยยอดสั่งซื้อในไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดถึง 50% ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนัก 16% ถือเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบ 26 ปี นับตั้งแต่ปี 1998

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและสร้างความกังวลให้กับวงการอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก

ASML รายงานยอดสั่งซื้อในไตรมาสที่ 3 เพียง 2.6 พันล้านยูโร (ประมาณ 9.4 หมื่นล้านบาท) ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ถึง 50% ที่ 5.39 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.95 แสนล้านบาท) สะท้อนถึงความต้องการที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ 

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายสุทธิสำหรับปี 2025 เหลือเพียง 3 – 3.5 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 1 – 1.26 ล้านล้านบาท) จากเดิมที่คาดไว้สูงถึง 4 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 1.45 ล้านล้านบาท)

เกิดอะไรขึ้นกับ ASML?

ความกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดการส่งออกไปยังจีนเป็นปัจจัยหลักที่กดดัน ASML โดยเมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ประกาศกฎควบคุมการส่งออกใหม่ ซึ่งจำกัดความสามารถของ ASML ในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาอุปกรณ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในจีน 

จีนถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ ASML โดยมีสัดส่วนถึง 47% ของยอดขายในไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายของ ASML ลดลงอย่างมาก 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกดดันอื่น ๆ ที่สำคัญ ได้แก่

  1. ยอดสั่งซื้อน้อยกว่าคาด ปัญหาหลักมาจากปริมาณคำสั่งซื้อเครื่องจักรผลิตชิปใหม่ที่น้อยกว่าคาดการณ์ถึงครึ่งหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่ AI ซึ่งยังคงฟื้นตัวช้า
  2. ปรับลดคาดการณ์รายได้ ASML ได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ในปี 2025 ลงประมาณ 25% เนื่องจากความต้องการชิปในหลายภาคส่วนยังคงอ่อนแอ
  3. การฟื้นตัวช้ากว่าคาด CEO ของ ASML ระบุว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเป็นไปอย่างช้า ๆ กว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ลูกค้าเพิ่มความระมัดระวังในการสั่งซื้อเครื่องผลิตชิป

สะเทือนวงการเซมิคอนดักเตอร์

การร่วงลงของหุ้น ASML ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก โดยดัชนี Philadelphia Semiconductor ซึ่งเป็นดัชนีที่ติดตามผลการดำเนินงานของ 30 บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา ได้ปรับตัวลดลง 5.3% ขณะที่หุ้นของบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมอย่าง Nvidia (NVDA), Advanced Micro Devices (AMD) และ Broadcom (AVGO) ต่างก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

โดย Nvidia (NVDA) ปรับตัวลดลง 4.5% ขณะที่ Advanced Micro Devices (AMD) ลดลงประมาณ 5.2% และ Broadcom (AVGO) ลดลง 3.7%

นักวิเคราะห์จาก Bernstein ระบุว่า “แม้ว่าผลประกอบการไตรมาส 3 จะออกมาดี แต่ยอดสั่งซื้อที่ต่ำกว่าคาดและมุมมองปี 2025 ที่น่าผิดหวังจะเป็นประเด็นหลักที่นักลงทุนสนใจ”

สถานการณ์ของ ASML สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเผชิญ ทั้งจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ และการเปลี่ยนแปลงของความต้องการในตลาด 

อย่างไรก็ตาม แม้จะเผชิญกับความท้าทายในระยะสั้น แต่ ASML ยังคงเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูง โดยเฉพาะเครื่อง EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญสำหรับการผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถพิมพ์ลวดลายที่ซับซ้อนลงบนชิป และมักใช้ในการผลิตชิปขั้นสูงที่มีขนาดเล็กกว่า 7 นาโนเมตรลงไป

ด้วยบทบาทสำคัญของ ASML ในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรม การฟื้นตัวของบริษัทอาจเป็นตัวชี้วัดสำคัญสำหรับทิศทางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลกในอนาคต


อ้างอิง: The Japan Times, CNBC