ซื้อหุ้นคืน คืออะไร

ข่าวการเจรจาของ Seven & I Holdings ผู้ดำเนินการร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในญี่ปุ่นกว่า 85,000 สาขา ที่ได้ทาบทามเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ให้ร่วมลงทุนในดีลซื้อหุ้นคืนมูลค่า 9 ล้านล้านเยน (เกือบ 2 ล้านล้านบาท) เพื่อป้องกันการเทกโอเวอร์จากกลุ่มทุนแคนาดาที่ชื่อว่า Alimentation Couche-Tard Inc. ส่งผลให้นักลงทุนต้องหันมามองการเคลื่อนไหวนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหุ้นของ CPALL ซึ่งมีสาขา 7-Eleven อยู่ในประเทศไทยกว่า 15,000 สาขา

กลยุทธ์การซื้อหุ้นคืนมักถูกใช้โดยบริษัทเพื่อจัดการทุนและมูลค่าหุ้นของตัวเอง แต่ผลกระทบต่อการลงทุนก็มีทั้งในแง่บวกและลบ ทั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลขและการทำบัญชี แต่ยังเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ทางการเงินที่สามารถส่งผลกระทบต่อนักลงทุนในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ

ทำความเข้าใจ “การซื้อหุ้นคืน”

การซื้อหุ้นคืน คือกระบวนการที่บริษัทนำเงินสดของตัวเองไปซื้อหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้ว จากตลาดหลักทรัพย์หรือจากผู้ถือหุ้น โดยการซื้อหุ้นคืนนี้จะทำให้จำนวนหุ้นที่เหลืออยู่ในตลาดลดลง ซึ่งมักมีผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นที่เหลืออยู่ (กำไรต่อหุ้น หรือ EPS) เพราะจำนวนหุ้นน้อยลง แต่กำไรยังเท่าเดิม

ทำไมบริษัทถึงเลือกซื้อหุ้นคืน?

1. เพิ่มมูลค่าให้กับหุ้นที่เหลือ

เมื่อจำนวนหุ้นในตลาดลดลง กำไรที่บริษัททำได้ (EPS) จะสูงขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มกำไรสุทธิ ซึ่งมักทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นในระยะสั้น นักลงทุนบางคนมองว่าเป็นสัญญาณบวกว่าบริษัทกำลังดำเนินงานได้ดี

2. มีเงินสดมากเกินไป

บริษัทที่มีเงินสดสำรองมาก แต่ไม่มีแผนการลงทุนที่ชัดเจน หรือไม่มีโอกาสขยายธุรกิจที่น่าสนใจ อาจเลือกใช้เงินสดเหล่านั้นเพื่อซื้อหุ้นคืน แทนการเก็บเงินไว้เฉย ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น

3. ป้องกันการเทกโอเวอร์

ในกรณีของ Seven & I Holdings บริษัทตัดสินใจซื้อหุ้นคืนเพื่อป้องกันการเทกโอเวอร์จากกลุ่มทุนแคนาดา โดยการลดจำนวนหุ้นในตลาด ทำให้กลุ่มทุนอื่น ๆ ยากที่จะเข้ามาซื้อหุ้นเพื่อครอบงำบริษัทได้ ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้ปกป้องการควบคุมบริษัทจากภายนอก

4. การปรับโครงสร้างทุน

บริษัทอาจเลือกซื้อหุ้นคืนเพื่อลดจำนวนหุ้นในตลาดและปรับโครงสร้างทุนให้เหมาะสม โดยการลดจำนวนหุ้นในตลาดสามารถช่วยให้บริษัทปรับลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ให้ดูดีขึ้น หรือทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินมากขึ้น

5. ส่งสัญญาณเชิงบวก

การซื้อหุ้นคืนสามารถส่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่า บริษัทมีความมั่นคงทางการเงินและเชื่อมั่นในอนาคตของตนเอง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ราคาหุ้นตกต่ำหรือเมื่อตลาดเกิดความไม่แน่นอน การซื้อหุ้นคืนอาจช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่าบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตและรักษาความมั่นคง

6. ป้องกันการ Dilution

หากบริษัทออกหุ้นใหม่เพื่อเพิ่มทุน หรือใช้หุ้นเป็นส่วนหนึ่งของการจ่ายผลตอบแทนหรือหุ้นรางวัลให้กับพนักงาน การซื้อหุ้นคืนช่วยลดผลกระทบจากการ Dilution (การลดมูลค่าหุ้นที่เกิดจากการออกหุ้นใหม่) ซึ่งช่วยให้ผู้ถือหุ้นปัจจุบันไม่เสียเปรียบ

7. ปรับตัวให้เหมาะกับสภาวะตลาด

หากตลาดหุ้นหรือเศรษฐกิจตกต่ำ บริษัทอาจเลือกซื้อหุ้นคืนเพื่อใช้เงินทุนในช่วงเวลาที่หุ้นราคาถูก การซื้อหุ้นคืนในช่วงราคาหุ้นต่ำสามารถทำให้บริษัทได้รับผลประโยชน์ในระยะยาวเมื่อราคาหุ้นฟื้นตัว

8. เพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น

ในบางกรณี การซื้อหุ้นคืนสามารถทำให้บริษัทเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น โดยการลดจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด ทำให้ผู้ถือหุ้นที่เหลืออยู่ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทั้งจากกำไรที่เพิ่มขึ้นและราคาหุ้นที่อาจปรับตัวขึ้น

การซื้อหุ้นคืนจึงไม่ใช่แค่การกระตุ้นมูลค่าหุ้นในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นกลยุทธ์ในการจัดการกับสภาวะทางการเงิน การป้องกันการเทกโอเวอร์ การปรับโครงสร้างทุน หรือส่งสัญญาณความมั่นคงให้กับนักลงทุน โดยบริษัทอาจเลือกใช้กลยุทธ์ซื้อหุ้นคืรเมื่อมีเงินสดสำรองมาก หรือเมื่อต้องการสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในช่วงเวลาที่ตลาดมีความไม่แน่นอน

ข้อควรระวังเมื่อบริษัทซื้อหุ้นคืน

แม้ว่าการซื้อหุ้นคืนจะมีข้อดีหลายด้าน แต่ก็มีข้อควรระวังและความเสี่ยงที่นักลงทุนควรพิจารณา ดังนี้

1. กระทบต่อการลงทุนในอนาคต

การใช้เงินสดไปซื้อหุ้นคืนอาจทำให้บริษัทไม่มีเงินทุนเพียงพอในการลงทุนในโครงการขยายธุรกิจหรือโอกาสใหม่ ๆ ที่อาจจะช่วยให้บริษัทเติบโตในระยะยาว หากบริษัทไม่สามารถหาทางเลือกในการใช้เงินได้ดี การซื้อหุ้นคืนอาจส่งผลเสียต่อการเติบโตในอนาคต

2. ระวังการกู้หนี้มาซื้อหุ้นคืน

หากบริษัทต้องกู้เงินเพื่อนำมาซื้อหุ้นคืน การที่บริษัทเพิ่มหนี้อาจกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคต หากบริษัทไม่สามารถบริหารหนี้ได้ดีพอ อาจทำให้สถานะการเงินของบริษัทอ่อนแอลง

3. การลงทุนในโครงการใหม่อาจลดลง

หากบริษัทเลือกใช้เงินสดจำนวนมากไปซื้อหุ้นคืนแทนการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ หรือการขยายธุรกิจ อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทไม่พบทางเลือกที่ดีกว่าในการใช้เงินทุน ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนต้องตั้งคำถามถึงกลยุทธ์ในระยะยาว

4. การซื้อหุ้นคืนอาจไม่ใช่สัญญาณของความมั่นคง

บางครั้งบริษัทอาจซื้อหุ้นคืนเพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ต้องการเห็นการเพิ่มมูลค่าหุ้นในระยะสั้น ซึ่งอาจเป็นการกระทำที่มุ่งหวังผลในระยะสั้น มากกว่าการสร้างมูลค่าในระยะยาวที่ยั่งยืน

5. ต้องการสร้างภาพลักษณ์บริษัทเท่านั้น

การซื้อหุ้นคืนอาจทำให้บริษัทดูเหมือนมีความมั่นคงและเชื่อมั่นในอนาคต แต่หากบริษัทใช้เงินสดไปในทิศทางที่ไม่คุ้มค่า หรือไม่ได้สร้างผลกำไรในระยะยาว การซื้อหุ้นคืนจึงอาจกลายเป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์มากกว่าการสร้างมูลค่าจริง ๆ

นักลงทุนควรทำอย่างไรเมื่อบริษัทซื้อหุ้นคืน

  1. อย่าด่วนสรุปว่าการซื้อหุ้นคืนเป็นเรื่องดีเสมอไป
    ก่อนที่จะตัดสินใจ ควรดูวัตถุประสงค์ของบริษัทในการซื้อหุ้นคืน เช่น ต้องการเพิ่มมูลค่าหุ้นหรือแค่ “เล่นตัวเลข” โดยไม่คำนึงถึงการเติบโตที่ยั่งยืน
  2. เปรียบเทียบกับการจ่ายปันผล
    ถ้าบริษัทเลือกซื้อหุ้นคืนแทนการจ่ายปันผล นักลงทุนควรประเมินว่า การเติบโตของบริษัทในอนาคตจะเพียงพอที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการได้รับปันผลหรือไม่
  3. ติดตามแหล่งที่มาของเงินทุน
    หากบริษัทต้องกู้เงินมาเพื่อซื้อหุ้นคืน ควรระมัดระวัง เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความไม่มั่นคงทางการเงินในระยะยาว
  4. ดูความต่อเนื่องของการซื้อหุ้นคืน
    บริษัทที่มีประวัติซื้อหุ้นคืนต่อเนื่องและมีแนวโน้มเติบโต (เช่น Apple หรือ Microsoft) อาจเป็นสัญญาณบวก แต่หากบริษัทซื้อหุ้นคืนแบบฉาบฉวยโดยไม่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว ก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาภายใน
  5. ตรวจสอบสถานะการเงินของบริษัท
    ประเมินว่าบริษัทสามารถแบกรับการซื้อหุ้นคืนได้หรือไม่ และว่ามีผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือการลงทุนในอนาคตหรือเปล่า
  6. มองระยะยาว
    การซื้อหุ้นคืนอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตในอนาคต นักลงทุนควรพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการขยายธุรกิจหรือการลงทุนในโครงการใหม่
  7. ระวังความเสี่ยงจากการกู้เงิน
    หากบริษัทต้องกู้เงินเพื่อซื้อหุ้นคืน ควรพิจารณาภาระหนี้สินที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของบริษัท
  8. ไม่ลืมวิเคราะห์พื้นฐานธุรกิจ
    นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับความสามารถในการสร้างกำไรและการเติบโตของบริษัทในระยะยาว ไม่ใช่แค่ราคาหุ้นที่อาจปรับขึ้นในระยะสั้น

การซื้อหุ้นคืนอาจเป็นกลยุทธ์ที่สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้นในระยะสั้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรละเลยเมื่อพิจารณาผลกระทบในระยะยาว การประเมินสถานะทางการเงินของบริษัท รวมถึงการพิจารณาการเติบโตที่ยั่งยืนจะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น 

หากคุณกำลังมองหาหุ้นไทยที่มีศักยภาพและเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว Definit SET Select ช่วยคัดเลือกหุ้นไทยเน้น ๆ ไม่เกิน 20 ตัว โดยพิจารณา 3 ปัจจัยหลักซึ่งช่วยให้การลงทุนมีโอกาสเติบโตได้จริง

 

Definit SET Select พลิกกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทย ช่วยคัดเลือกหุ้นไทยเน้น ๆ ไม่เกิน 20 ตัว พิจารณา 3 ปัจจัย

Earnings หุ้นที่ถูกปรับประมาณการกำไรขึ้น
Valuation หุ้นที่มูลค่าถูกกว่าอุตสาหกรรม
Technical หุ้นที่มีโมเมนตัมเชิงบวกของราคาในระยะสั้น

สนใจรับบริการ คลิกเลย ▶️ https://www.definitinvestment.com/contact-form


อ้างอิง: Finnomena, SET Investnow, SET Thailand

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้

 

Wealth Health Check