ในวาระขึ้นปีใหม่นี้ ผมขออวยพรให้นักลงทุนมีแต่ความสำเร็จในการลงทุน “ซิงเจียยู่อี่” ครับ
- จากสุนทรพจน์ของนาย Donald Trump ในการรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 มีใจความสำคัญเกี่ยวกับการใช้นโยบาย America First หรือ อเมริกันต้องมาก่อน จะมีผลอย่างยิ่งในการค้าโลก มีการคาดการณ์ว่า ภาษีของบริษัทอเมริกัน (Corporate Income) จะลดลง และจะมีการลดลงของภาษีของบุคคลธรรมดา
- เมื่อมองโดยรวมแล้ว การบริโภคภายในของประเทศสหรัฐจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคา Commodity หรือสินค้า โภคภัณฑ์ทั้ง Hard และ Soft มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ การใช้นโยบายการคลังที่ขาดดุลของสหรัฐนำไปสู่ Bond Yield ที่ปรับตัวลดลง แต่จะถูกชดเชยด้วยเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงทำให้ Bond Yield จะผันผวนสูงและเป็นตัวกำหนดทิศทางของฟันด์โฟลว์ใน Step ต่อไป ถ้า Bond Yield ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ แสดงให้เห็นถึงภาวะที่สูงขึ้นของแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อ
- มองว่า Fed คงไม่ปรับการขึ้นดอกเบี้ยในครั้งแรกของปี 2017 จึงทำให้มุมมองยังคงเหมือนเดิมว่า ตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีแรกจะดีกว่าครึ่งปีหลังของปี 2017 และมีโอกาสที่จะทดสอบระดับ 1600-1620 ในครึ่งปีแรกของปี 2017
- มองว่ากำไรต่อหุ้นของตลาดหุ้นไทย (EPS) ที่ระดับ 106-107 บาทต่อหุ้นของปี 2017 ยังคงถูก Underestimated จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของ Commodity Price และ Steepening Yield Curve คือกลุ่มธนาคารและกลุ่ม Commodity มีโอกาสที่จะถูก Rerate ในทางบวกของกำไร
- มองว่ากลุ่ม Telecom และกลุ่ม Content จะมี Earning ที่ Bottom Out ไปแล้ว ในไตรมาส 4 (การเห็นจุดต่ำสุดของ earning) ของปี 2016 คาดการณ์ Earning จะ Turnaround ในทางบวกในปี 2017 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทที่มีโอกาสที่จะทำ Private Public Partnership (PPP) กับ TOT และ CAT ถึงแม้ว่าราคาหุ้นของกลุ่ม เหล่านี้จะมี Overshoot ในช่วงสั้น การประกาศงบของไตรมาส 4 ของปี 2016 ถ้างบออกมาไม่ดี ก็อาจจะเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นอีกครั้ง
- มองว่ากลุ่ม Property ที่มีโครงสร้างรายได้ทางด้านบริการซ่อนอยู่ (Recurring Revenue) จะ Outperform
- มองว่ากลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่มี Under Utilization Rate จะเห็นการ Turnaround ของ Earning ค่อนข้างเป็น Positive Surprise ในปี 2017
ที่มาบทความ : www.facebook.com/Trinitysecuritiesgroup