มุมมองที่ให้สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตลาดหุ้นจะเลื่อนการปรับฐานจากไตรมาส 4 มาสู่เดือนกันยายนยังคงสอดคล้องตาม Roadmap ที่ให้ และตลาดหุ้นได้ปรับตัวลดลงกว่า 100 จุดใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา (อ่านมุมมอง 5-9 กันยายน)
- ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา นักลงทุนต่างประเทศซื้อพันธบัตรระยะยาว 5.8 พันล้านบาท ขายพันธบัตรระยะสั้นจำนวน 2.4 พันล้านบาท ซื้อหุ้นไทย 3.6 พันล้านบาท แต่ Short Future 7,863 สัญญาในตลาดอนุพันธ์ สถานการณ์แบบนี้บ่งบอกว่านักลงทุนต่างประเทศเริ่มที่จะ Hedging ตลาดหุ้นผ่านตลาดอนุพันธ์และตลาดหุ้นไทยจะมี Upside ที่จำกัด
- ตลาดหุ้นโลกยังคงเปราะบางเกี่ยวกับ Shock ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น Bond Shock (ภาวะที่ Bond Yield ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันก่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย) เราได้เห็นการที่ Bond Yield 10 ปีสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1.57% มาสู่ 1.67% หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 6% ทำให้เกิด Bond Shock และตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การที่ตลาดหุ้นปรับฐานเป็นผลมาจากผลของ Bond Yield ที่สูงขึ้นเท่านั้น ซึ่งในขั้นถัดไปค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้เกิดแรงขาย (Selling Pressure) อีกระลอก
- สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตรและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) และทองคำต่างปรับตัวลดลงอย่างมาก บ่งบอกถึงภาวะ Deleveraging (ภาวะรัดเข็มขัด) ของกองทุนต่างๆ ทั่วโลก แต่ USD เป็นสินทรัพย์ที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) และ USD และ VIX เป็นสินทรัพย์ที่ Underowned กล่าวคือนักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่มีในพอร์ต
- ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงสะท้อน 10% ของเวลาเมื่อเปรียบเทียบในเชิง Forward P/E ที่ 15.4X
- ตัวกำหนดการเคลื่อนไหวของ SET Index ในระยะถัดไป คือ Bond Yield และอัตราแลกเปลี่ยน
- ตลาดหุ้นจะผันผวนจากความไม่แน่นอนในดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารโลก และภาวะการไม่สมดุลระหว่างฝ่าย Short และการฝ่าย Recovery Short ของหุ้น
- ถ้า Fed ไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปลายเดือนนี้ และ BOJ มีนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้ติดลบเพิ่มขึ้น ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะลดแรงขายของตลาดหุ้นทั่วโลกได้ และอาจทำให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวกลับมา
นักลงทุนควรเลือกหุ้นที่มี Downside ต่ำทางด้าน Valuation เช่น
- หุ้นที่ต่ำ P/BV มากๆ หรือหุ้นที่มี Distress Value หรือหุ้นที่มี Cash Equivalent, Cash flow from Operating เป็นสัดส่วนที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับ Market Capitalization
- หุ้นที่มีประโยชน์จาก Bond Yield ขาขึ้น หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Global Presence หรือได้ประโยชน์จาก Regional Presence หุ้นที่มีรายรับเป็น USD
ที่มาบทความ :
https://www.facebook.com/Trinitysecuritiesgroup/photos/a.177983115551319.50414.177733592242938/1403103203039298/?type=3&theater
แท็ก: