dr.wisit-15-19-Aug-01

เรื่องระเบิดที่ภาคใต้ถือเป็นเรื่องภายใน และเป็น Micro Factor เมื่อเทียบกับกระแส Fund Flow และ Liquidity ที่เป็น Factor ที่มีความสำคัญมากกว่า

แนะนำให้ติดตามวันสำคัญ ที่มีผลต่อการกำหนดทิศทางของ Fund Flow ที่จะไหลเข้า Emerging Market คือ

17 สิงหาคม : การเปิดเผยรายงานการประชุมของ Fed เดือน ก.ค. มองว่า Labor + Market ของ US ดีขึ้น แต่ Fed อาจจะมีความกังวลต่อภาค International Market ใน UK และ Europe มุมมองอาจจะมี Tone ของนโยบายดอกเบี้ยผ่อนคลายน้อยลง หรือ Hawkish เล็กๆ อาจจะทำให้หุ้นปรับฐานชั่วคราว

26 สิงหาคม : การประชุมของ Fed ที่ Jackson Hole ซึ่งเหตุการณ์นี้จะมีผลต่อความน่าจะเป็นในการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในปีนี้ ถ้าความน่าจะเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยลดลง โอกาสที่หุ้นจะ rally ต่อจะมีสูงขึ้น

21 กันยายน : ตลาดคาดการณ์ว่า BoJ จะทำ QE เพิ่ม เช่น การซื้อพันธบัตร JGB จำนวน 1 แสนล้านเยน ต่อเดือนและอาจจะลดดอกเบี้ยให้ติดลบเพิ่มเป็น -30bps

ค่าเงินบาทที่คำนวณจาก REER หรือ Real Effective Exchange Rate ยังคงแข็งแกร่ง และทำให้ Hedge Fund ไม่กล้า short เงินบาท ซึ่งมองว่า Flow จะไม่ไหลออก และหุ้น ไทยยังคงแข็งแกร่ง

ค่าเงินหยวนของจีนเริ่มอ่อนลงในวันศุกร์ที่ผ่านมา และค่าเงินหยวนในตลาด Forward  ล่วงหน้า 1 ปี มีการอ่อนค่าลง ซึ่งอาจเป็นประเด็นที่อาจทำให้การ Rally ของหุ้น Emerging Market มีการสะดุด โดยต้องระวังประเด็นนี้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไป

หุ้นกลุ่มที่มีแนวโน้มจะ Outperform คือ หุ้นที่ราคาต่ำกว่า Break-up Value มากๆ

ในภาพรวมมอง SET Index เป็นลักษณะ Sideway Up และใน Q3 จะเป็นจุดสูงสุดของ Liquidity มองเป้าของ SET Index อยู่ที่ราว 1,600 จุด +/- หรือที่ P/E 15.2 เท่าของ EPS 105 บาทต่อหุ้น ในปี 2017

ที่มาบทความ : https://www.facebook.com/Trinitysecuritiesgroup/photos/a.177983115551319.50414.177733592242938/1374794985870120/?type=3&theater