เมื่อนักล่ากลายเป็นเหยื่อ
ช่วงเร็ว ๆ นี้ ในสังคมไทยเกิดปรากฏการณ์หลายกรณีที่อยู่ดี ๆ คนที่เคยมีอำนาจ มีบทบาท และเป็นที่ยอมรับในสังคมว่าเป็น คนเก่ง คนดี คนที่มีความสามารถ คนที่ต่อสู้เพื่อช่วยเหลือคนอื่นที่อาจจะถูกทำร้าย ถูกทำลาย ถูกหลอกลวงให้เสียหาย ก็กลับกลายเป็นคนที่ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นคนไม่ดีที่หลอกลวง ทำร้ายคนอื่นด้วยอำนาจหรือความสามารถที่ตนมี และกำลังถูกกล่าวโทษโดยคนที่ก่อนหน้านั้น อาจจะเป็นคนที่ตกทุกข์ได้ยากและต้องการความช่วยเหลือในฐานะ “เหยื่อ” ของ “นักล่า”

ปรากฎการณ์ที่ “นักล่า” ซึ่งก็คือคนที่เก่งกว่า มีพลังอำนาจมากกว่า เข้าไปล่า “เหยื่อ” นั้น ผมนำมาประยุกต์ใช้กับกิจกรรมของมนุษย์ทุกอย่างตั้งแต่เรื่องของสงครามไปจนถึงการเงินที่ฝ่ายนักล่าจะเป็นผู้ที่ “บุก” เข้าไปต่อสู้แข่งขันเพื่อเอาชนะ “เหยื่อ” ที่อ่อนแอกว่า แล้วก็กวาดทรัพยากรหรือทรัพย์สมบัติของเหยื่อมาเป็นของตนเอง

นักล่าจำนวนไม่น้อย เคยประสบความสำเร็จมาอย่างใหญ่หลวงจนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางและก็เป็นที่น่าหวาดกลัวสำหรับเหยื่อ รวมถึงเป็นที่น่าเกรงขามในหมู่นักล่าอื่น ๆ ที่อาจจะอิจฉาและพร้อมที่จะเข้ามา “ทำลาย” บารมีนั้นถ้ามีโอกาส และนั่นก็คือวันที่ “นักล่า” กลายเป็น “เหยื่อ” เสียเองอย่างไม่ทันตั้งตัว

ตัวอย่างของสงครามก็คือในศึกสตาลินกราดที่กองทัพเยอรมันบุกโซเวียตรัสเซียในสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงที่สามารถยึดยุโรปตะวันตกได้แทบทั้งหมดในระยะเวลาอันสั้น และเหยื่อรายต่อไปก็คือรัสเซีย ซึ่งก็คือ “นักล่าระดับรอง” รายหนึ่งที่บุกยึดโปแลนด์ร่วมกับเยอรมันมาก่อนหน้าแล้ว

เยอรมันบุกถึงสตาลินกราดและได้เข้าล้อมเมืองไว้ 3 ด้าน โดยที่ด้านหลังของเมืองติดแม่น้ำโวลกา กองทัพโซเวียตถูกต้อนเข้าไปจนมุมและดูเหมือนว่าจะต้องแพ้อย่างย่อยยับแน่นอน แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้และดึงเกมการสู้รบยาวนานอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยซากอาคารปลักหักพัง

และรอเวลาที่กองทัพใหญ่จากจุดอื่นของโซเวียตจะตีโอบล้อมกองทัพเยอรมันอีกชั้นหนึ่ง ผลก็คือ เยอรมันที่ล้อมกองทัพโซเวียตติดอยู่ที่ “มุม” กลับกลายเป็นว่าเยอรมันเป็นฝ่ายที่ถูกล้อมเสียเองเพราะฮิตเลอร์ไม่ยอมให้กองทัพถอยก่อนที่จะถูกล้อม

เยอรมันในฐานะที่เป็น “นักล่า” กลายเป็น “เหยื่อ” ที่ถูกกองทัพโซเวียตทำลายย่อยยับ ศึกสตาลินกราดถือว่าเป็นศึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เยอรมันเป็นฝ่ายแพ้สงครามแทนที่จะเป็นประเทศที่จะ “ครองโลก”

ความผิดพลาดของเยอรมันก็คือ อีโก้ที่สูงเกินไปของฮิตเลอร์ เขาอยากยึดสตาลินกราดที่อยู่ห่างจากเยอรมันหลายพันกิโลเมตร ซึ่งทำให้กำลังความเข้มแข็งของกองทัพลดลงมากโดยเฉพาะในด้านของการส่งกำลังบำรุงในช่วงฤดูหนาว

เหตุผลของการบุกที่จริงก็เพื่อเข้ายึดแหล่งน้ำมันทางภาคใต้ที่อยู่เลยสตาลินกราดไป แต่เขาอยากยึดสตาลินกราดซึ่งเป็นชื่อของสตาลินผู้นำสูงสุดก่อนเพื่อข่มขวัญรัสเซีย ข้อสรุปก็คือ ฮิตเลอร์ ล่า “เหยื่อ” ตัวใหญ่เกินไป ดังนั้นเมื่อพลาด เขาก็เป็นเหยื่อเสียเอง

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร